ตามรอย 'แซลมอน' ไปออสโล...เมืองสวยรวยเสน่ห์แห่ง ‘นอร์เวย์’
คนรัก "แซลมอน" ปักหมุดรอไว้เลย หมดโควิดเมื่อไรลองไปตามรอยทริปนี้ดู แล้วจะรู้ว่าเมืองหลวงออสโล ของ "นอร์เวย์" นอกจากจะสวยแล้วยังอร่อยด้วย!
ผมเป็นคนชอบทานอาหารสุขภาพ โดยเฉพาะพืชผักผลไม้และปลา ในขณะเดียวกันผมก็ชอบเดินทางท่องโลกเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ในทริปนั้นผมจึงแรมทางยาวไกลขึ้นไปใกล้ขั้วโลกเหนือ แถบสแกนดิเนเวีย เพื่อตามรอยปลาแซลมอน หนึ่งในอาหารจานเด็ดที่มีเมนูเสิร์ฟขึ้นโต๊ะกันทั่วโลก
เวลาเกือบ 11 ชั่วโมงบนเครื่องบินอาจจะฟังดูนาน ทว่าเมื่อได้ก้าวพ้นประตูเครื่องบินออกมาสูดอากาศ อันสดชื่นเย็นสบาย ณ ออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ความเหนื่อยทั้งหมดจะมลายไป เพราะภาพที่เห็นตรงหน้าคือเมืองใหญ่อันมีส่วนผสมลงตัวของเมืองใหม่ทันสมัย และเมืองเก่าที่ยังอนุรักษ์อาคารสถาปัตยกรรมโบราณไว้ได้ดีเยี่ยม
นับถึงวันนี้ออสโลมีอายุได้เกือบหนึ่งพันปีแล้ว จัดว่าเป็นเมืองสวย สงบ ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เมืองนี้จึงมีหลากมิติให้เราค้นหาในแบบของเราเอง
ออสโลเป็นเมืองหลวงบรรยากาศชิลชิล ไม่แออัด เพราะมีประชากรแค่ 6 แสนกว่าคนเอง ภูมิประเทศด้านทิศเหนือเป็นภูเขา ทิศใต้ติดทะเลสีคราม ซึ่งมีอ่าวเว้าแหว่งรูปทรงประหลาดทอดออกไปในมหาสมุทรกว้าง และมีเกาะอีกกว่า 40 เกาะกระจายอยู่ คนที่นี่รักษาธรรมชาติไว้ดีมาก โดยเฉพาะแม่น้ำลำธารและป่าเขา จนทำให้ออสโลเป็นเมืองหลวงแห่งเดียวของโลก ที่ยังมีฝูงปลาแซลมอนธรรมชาติว่ายน้ำอพยพจากมหาสมุทรขึ้นไปวางไข่ที่ต้นน้ำลำธารบนภูเขาทุกปี
นอกจากนี้ออสโลยังเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดของโลก จนได้รับการจัดให้เป็น Beta City หรือเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้ว
การเดินเที่ยวในออสโลเป็นช่วงเวลาน่าจดจำ โดยเฉพาะที่สวนสาธารณะอันมีชื่อเสียงคือ ‘สวนฟร็อกเนอร์’ (Frogner Park) เนื้อที่ 0.45 ตารางกิโลเมตร โดยมีด้านหนึ่งเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินอร์เวย์ด้วย ว่ากันว่าสวนฟร็อกเนอร์จะสวยสุดๆ ในต้นฤดูใบไม้ร่วง เมื่อทั้งสวนผลัดใบรอรับฤดูหนาว เป็นสีเหลือง สีส้ม สีแดง ราวกับภาพวาดศิลปะแสนงาม แลเห็นใบเมเปิลห้าแฉกผลัดใบสีเหลืองสดพลิ้วไหวไปมาตามกระแสลม
แต่สิ่งที่ทำให้สวนฟร็อกเนอร์โด่งดังไปทั่วโลกคือ รูปสลักหินและรูปหล่อบรอนส์กว่า 212 ชิ้น ที่ตั้งแสดงอยู่ในสวน Open Air นี้ เป็นผลงานของศิลปินนักปั้นระดับโลก กุสตาฟ วิคเกอแลนด์ (Gustav Vigeland) รูปสลักเหล่านี้มีความพิเศษตรงที่เป็นรูปมนุษย์ขนาดใหญ่กว่าจริงเล็กน้อย แสดงท่าทาง อารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง เศร้า เสียใจ ร่าเริง ฯลฯ สะท้อนแก่นแท้ก้นบึ้งจิตใจมนุษย์ออกมา และสำคัญที่สุดคือ ทั้งหมดเป็นรูปมนุษย์เปลือยแบบมีศิลป์ จนทำให้สวนนี้ได้นิกเนมเก๋ไก๋ว่า ‘สวนมนุษย์เปลือยของกุสตาฟ’
จากสวนมนุษย์เปลือยผมนั่งรถแท็กซี่ไปเที่ยวต่อที่ ‘ตลาดมาตฮอลเลน’ (Mathallen Market) เป็นตลาดสุดเก๋ ด้วยการพลิกโฉมนำโกดังสินค้าเก่ามาปรับปรุงใหม่ให้ไฮโซน่าเดิน มีการนำอาหารอร่อยจากทั่วนอร์เวย์ซึ่งคัดสรรแล้วมารวมไว้ ทั้งซีฟู๊ด เนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้ เบเกอร์รี่ เค้ก กาแฟ รวมถึงยังมีศูนย์อาหารสไตล์โมเดิร์นให้นั่งชิลได้ทั้งวัน จึงกลายเป็นแหล่งพบปะของคนทุกเพศทุกวัย แถมบนชั้นสองของตลาดยังเป็นสถาบันสอนทำอาหารแห่งออสโล (Culinary Academy Oslo) สำหรับคนที่อยากเรียนทำอาหารจริงจังด้วย
สิ่งเตะตาผมที่สุดสองอย่างในตลาดมาตฮอลเลนคือ กุ้งล็อปสเตอร์ยักษ์หนัก 5-7 กิโลกรัม รวมถึงปลาแซลมอนสดๆ ที่ผมเพิ่งจะเห็นตัวจริง ว่าทั้งตัวมันใหญ่ยาวตั้ง 3-4 ฟุตเลยทีเดียว ว่ากันว่าแซลมอนที่เพิ่งจับได้แล้วนำมาแล่กินภายใน 4 ชั่วโมงนั้นถือว่ายอดเยี่ยมที่สุด ผมเลยสั่งเนื้อมาชิมแบบซาซิมิ (ปลาดิบสไตล์ญี่ปุ่น) ต้องบอกว่าเนื้อหวานนุ่ม ละลายในปากเลยเชียว
เมื่อเรียกน้ำย่อยไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวมื้อหนักที่ตั้งใจมาจากเมืองไทย กับการให้รางวัลชีวิต กินหรูในภัตตาคารระดับ Michelin Star ที่ ภัตตาคารสตัตโฮลเดอร์กอร์เดน (Statholdergaarden) ตั้งอยู่ภายในอาคารเก่าคลาสสิกสร้างเมื่อ ค.ศ. 1640 แรกเริ่มเดิมทีตึกนี้ใช้เป็นบ้านของผู้อำนวยการโรงกษาปณ์ ในสมัยที่นอร์เวย์ยังเป็นเมืองขึ้นของเดนมาร์ก การตกแต่งภายในจึงเหมือนเราได้ย้อนไปในยุคโบราณไม่มีผิด
เชฟระดับโลกของร้านนี้ชื่อ เบนท์ เสตียนเซน ผู้ได้รับตำแหน่ง Word Master ทางด้านอาหาร จนมีชื่อเสียงไปทั่วนอร์เวย์ เมนูที่เขาถนัดคือการนำวัตถุดิบสดๆ จากท้องทะเลบ้านเกิดมาปรุงอาหารจำพวกแซลมอน, ปลาเทราต์, ปลาคอตทอด, แซลมอนรมควัน และกุ้งล็อบสเตอร์ ผมนั่งรออยู่ไม่นาน ก็มีอาหารจานพิเศษยกมาเสิร์ฟ เป็นเสต็กปลาแซลมอนชิ้นเบ้อเริ่ม หอยเชลล์ตัวใหญ่อวบอ้วนเนื้อหวานเจี๊ยบ กุ้งล็อปสเตอร์แน่นปั๋ง เนรมิตเป็น Seafood Salad, Poached Salmon with Vegetables and Butter Sauce
ชาวนอร์เวย์มีความผูกพันกับปลาแซลมอนมากพอๆ กับที่คนไทยผูกพันกับปลาทู พวกเขาเชื่อว่า แซลมอนคือตัวแทนแห่งสติปัญญา (Salmon of Knowledge)ใครได้กินเนื้อแซลมอนก็จะได้รับพลังสติปัญญา ความรอบรู้ ความฉลาดเฉลียว รวมถึงประสบการณ์ที่ปลาแซลมอนสั่งสมไว้มาอยู่ในตัวคนผู้นั้นด้วย
ปลาแซลมอนจึงเปรียบได้ดัง ‘ขุมทรัพย์แห่งห้วงสมุทร’ (Fruit of the Ocean) เลยทีเดียว อิ่มอร่อยสุดๆ พร้อมกับจ่ายค่าอาหารไปหลักหมื่นบาท สมกับเป็นทริปตามมาชิมปลาแซลมอน
ผมเดินเตร่เที่ยวต่อแถวๆ ท่าเรือเมืองออสโล (Oslo Harbour) ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สะอาดสะอ้านดูโมเดิร์น แถมยังเป็นจุดนั่งชมวิวผืนน้ำสีครามทอดออกไปสู่อ่าวออสโล มีเรือนับร้อยลำเข้ามาจอดเทียบท่าอยู่ในอ่าวโค้งเว้า อีกทั้งเป็นจุดที่เราสามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์ล่องเรือออกไปเที่ยวชมธรรมชาติมหัศจรรย์ ‘ฟยอร์ดแห่งออสโล’ (Oslo Fjord) ได้ด้วย
คำว่า ‘ฟยอร์ด’ คือภูมิประเทศแบบหนึ่ง เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเมื่อประมาณหมื่นปีก่อน เมื่อน้ำแข็งละลายหมด จึงทิ้งร่องรอยไว้เป็นโตรกผาแคบชันสูงหลายร้อยเมตร น่าตื่นตาตื่นใจมาก การล่องเรือชมฟยอร์ดนี้มีทั้งแบบล่องเรือชมวิว 2-3 ชั่งโมง พร้อมอาหาร, ล่องเรือเต็มวัน, ล่องเรือใหญ่ออกไปพายเรือคายัคชมฟยอร์ด ฯลฯ สะดวกแบบไหน ก็เลือกกันได้เลยนะครับ
ทริปเที่ยวออสโล ประเทศนอร์เวย์ ตามหาปลาแซลมอนของผมจบลงแล้ว สัญญากับตัวเองว่าจะต้องกลับไปหม่ำแซลมอนที่นั่นอีกให้ได้ แต่ตอนนี้ขอกินน้ำพริกปลาทูบ้านเราไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน