ศิษย์เก่าโรงเรียนดัง ยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบบริหารงานผอ.

กลายเป็นประเด็นในแวดวงการศึกษาขึ้นมาทันที เมื่อกลุ่มศิษย์เก่า ครูทั้งเก่าและปัจจุบันของโรงเรียนดัง อย่าง“โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ช.)เร่งตรวจสอบการกระทำอันมิชอบของ “นายโสภณ กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” เนื่องจากพบหลักฐานที่ส่อถึงการปฏิบัติหน้าที่ในทางมิชอบด้วยกฎหมายหลายประการ

วันนี้ (22 ก.ย.2563) นายกฤษณพงศ์ กีรติกร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่าเอกสารที่นำมายื่นป.ป.ช.เป็นหนังสือเปิดผนึก จำนวน 35 รายการ และใบแจ้งความ สน.ปทุมวัน ที่ คณะครูแจ้งความเอาผิดกับ ผอ. คนดังกล่าว เพื่อให้ ป.ป.ช.เร่งตรวจสอบ พฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ ว่า เข้าข่ายเป็นการกระทำโดยมิชอบ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียต่อระบบการเรียนการสอนการศึกษาของโรงเรียน หรือไม่ เพราะเรื่องนี้ คณะครูอาจารย์ได้เคยไปแจ้งความ และยื่นร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเคยฟ้องต่อศาลปกครอง แต่เรื่องก็ยังเงียบไม่คืบหน้าจึงมาร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบเส้นทาง ทางการเงินของ ผอ.โรงเรียน และบุคคลที่เกี่ยวข้องได้

"นายพิจารณ์ สุขภารังษี ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และอดีตประธานฝ่ายวิชาการสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษา" กล่าวว่าประเด็นที่เรียกร้องจากป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ นายโสภณ นั้น มีดังนี้ การกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง โดยเฉพาะในเรื่องการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษประจำปี 2563 จำนวน 34 คน เช่นการอ้างเงื่อนไขการรับนักเรียนการเปิดบัญชีต่าง ๆ หลายบัญชีของโรงเรียนรับเงินบริจาค แต่ไม่ได้นำไปใช้จ่ายให้เป็นไปตามกฏหมาย และกฏระเบียบ

รวมถึง การเรียกรับเงินและสิ่งของจากบริษัทคู่ค้าและผู้ให้บริการซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างนอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการการจัดซื้อจัดจ้างผิด พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการพัสดุของรัฐ ขณะที่การปฏิบัติหน้าที่ผิดมาตรา 157 กระทำหรือไม่กระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย

มีการโยกย้ายผู้บริหาร และบุคลากรโดยมิชอบ เป็นผู้สนับสนุนให้เกิดความขัดแย้งกับ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สมาคมผู้ปกครองและครูเตรียมอุดมศึกษา สโมสรอาจารย์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และชมรมครูเก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ด้าน "นายโสภณ กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา" เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดที่ถูกกล่าวอ้างนั้นตนเองสามารถให้ตรวจสอบได้หมดทุกเรื่อง โดยการรับนักเรียนเมื่อปีการศึกษา 2563 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาชั้นม.4 ไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การรับนักเรียนได้ เนื่องจากจะต้องยึดหลักเกณฑ์แนวปฎิบัติการรับนักเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เท่านั้น

ก่อนที่จะมารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีการกำหนดรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษเกือบ 300 คนในปี 2559และ 2560 ดังนั้นตอบได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้เงื่อนไขพิเศษที่รับมามีที่มาที่ไปอย่าง โดยในส่วนของยุคที่มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้รับเด็กด้วยเงื่อนไขพิเศษ จำนวน 34 คน

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ที่ผ่านมาป.ป.ช.และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มาตรวจติดตามการรับนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาด้วย ซึ่งทั้งสองหน่วยงานก็ไม่ได้ติดใจและการรับนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาดำเนินการอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้

ส่วนกรณีการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษนั้นโรงเรียนจะทำเรื่องเสนอให้คณะกรรมการสถานศึกษาจากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปก็จะส่งต่อไปให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) กทม.พิจารณาอนุมัติการรับนักเรียนด้วยวิธีเงื่อนไขพิเศษต่อไป

“ขอยืนยันว่าในยุคของผมตรวจสอบได้หมดทุกเรื่องไม่มีเรื่องทุจริต เชื่อว่ากลุ่มที่ไปร้องเรียนต้องการทำลายชื่อเสียงของผม”นายโสภณ กล่าว