‘รมว.แรงงาน’ เยือนเมืองลุง เปิดมหกรรมคนสามวัยใส่ใจสุขภาพ
ฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดโครงการมหกรรมคนสามวัยใส่ใจสุขภาพจังหวัดพัทลุง สร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของประชาชน ส่งเสริมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีปราศจากโควิด-19
วานนี้ (25 ก.ย. 63) เวลา 16.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมหกรรมคนสามวัยใส่ใจสุขภาพจังหวัดพัทลุง พร้อมมอบเกียรติบัตรสุขภาพดีให้แก่ผู้สูงอายุ 11 อําเภอ และเทศบาลเมืองพัทลุง ณ สนามกีฬากลางจังหวัดพัทลุง โดย นายสุชาติ กล่าวว่า “ตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ 2563 จนถึงปัจจุบัน ทุกประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหา การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้คนเกิดความวิตกกังวลไปทั่วโลก มีการปิดเมือง ปิดประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
"หลายธุรกิจ ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม จนต้องลดพนักงาน เลิกจ้าง หรือ ปิดตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น ภายใต้การบริหารประเทศของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้เร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยนำนโยบาย “รวมไทยสร้างชาติ” มาเป็นหลักในการขับเคลื่อน"
การที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุงได้จัดโครงการมหกรรมคนสามวัย ใส่ใจสุขภาพจังหวัดพัทลุง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของประชาชน ส่งเสริมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ ซึ่งการดูแลสุขภาพถือเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับทุกคน เมื่อประชาชนสุขภาพดีปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ส่งผลให้ลดภาระ ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข อีกทั้งโครงการนี้ยังสร้างความรักความสามัคคีของประชาชนในจังหวัดพัทลุง ถือเป็นโครงการที่ดียิ่ง”
การจัดโครงการในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคเครือข่ายประชาชนในการดูแลสุขภาพของประชาชน สร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของประชาชน ให้ประชาชนคน 3 วัย ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ให้ประชาชนคนสามวัยจังหวัดพัทลุงได้รับการบริการด้านสาธารณสุขเบื้องต้นอย่างถูกวิธี และเป็นการสร้างความรักความสามัคคีของประชาชนในจังหวัดพัทลุง โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย กลุ่มเด็กและเยาวชน จำนวน 2,500 คน กลุ่มคนวัยทำงาน จำนวน 2,000 คน กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 2,000 คน รวมพลคนสามวัย จำนวน 6,500 คน