สารสาสน์ฯ ออกแถลงการณ์ไม่ได้บังคับ"พี่เลี้ยงจุ๋ม"ฟ้องร้องผู้ปกครอง

จากกรณีเด็กเล็กโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ถูกพี่เลี้ยง และครูทำร้าย โดยมีผู้ปกครองเข้าแจ้งความแล้วทั้งหมด 32 ราย รวม 58 คดี กับครูและพี่เลี้ยงทั้งหมด 13 คน ซึ่งมีครูและพี่เลี้ยงที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 9 ราย ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน จะมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน ได้ตรวจสอบครบทั้งหมดแล้ว

ขณะนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวกลุ่มครูและพี่เลี้ยง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ไปยื่นขออำนาจศาล เพื่อผัดฟ้องและฝากขัง หลังเข้ามอบตัวและถูกโดยถูกตำรวจแจ้งข้อหาดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และกระทำทารุณกรรมเด็ก

วันนี้ (7ต.ค.2563)นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) ได้เดินทางไปที่ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุง แก้ไขในประเด็นตามที่โรงเรียนได้บันทึกข้อตกลงกับกระทรวงศึกษาธิการ และการลาออกของนักเรียน

พบว่าขณะนี้มีนักเรียนระดับอนุบาล ได้ลาออกไปแล้ว 16 คน ส่วนการปรับปรุงอื่นๆ เช่น การติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมการปรับปรุงห้องน้ำเมนูอาหารโดยจะต้องมีการแจ้งให้แก่ผู้ปกครองรับทราบในทุกวัน มีการปรับปรุงพื้นทางเดิน และอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งเท่าที่ทราบผู้ปกครองส่วนใหญ่พึ่งพอใจ ที่โรงเรียนเปลี่ยนมาตราการในหลานเรื่อง และดูแลเด็กดีขึ้น

ทั้งนี้ สำหรับเรื่องใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ คุรุสภาได้มึการตรวจสอบจำนวนครูผู้สอน ทุกคนที่เห็นว่ามีใบใบอนุญาตแล้ว ส่วนเรื่องการคัดเลือก พี่เลี้ยง หรือตำแหน่งใดๆ ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพนั้น  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดอบรมพัฒนาองค์ความรู้

โดยคาดว่าจะทำเป็นมาตรฐานในการรับพี่เลี้ยงเด็ก กลุ่มโรงเรียนสช.ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม  การที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกผู้บริหารโรงเรียนในวันนี้ นั้น เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งสช.ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ จากกรณีนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้เข้ามาช่วยเหลือน.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ ครูจุ๋ม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้น

เพจ Sarasas Witaed Ratchaphruek School ได้เผยแพร่แถลงการณ์โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 โดยระบุว่า

1. การเข้ามาของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ นั้นเพื่อให้ความเห็นทางด้านกฎหมายเบื้องต้นเพื่อระงับข้อพิพาท และเยียวยาระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองเท่านั้น

2. โรงเรียนมิได้ต้องการต่อสู้กับผู้ปกครอง หรือปฏิเสธความรับผิดชอบต่อนักเรียนและผู้ปกครอง แต่ประการใด และยังคงยืนยันเจตนารมณ์ตามมาตรการบันทึกข้อตกลงระหว่างโรงเรียนกับกระทรวงศึกษาธิการ ณ สํานักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน วันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2563 และโรงเรียนจะแจ้งความคืบหน้าการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวให้สาธารณชนทราบต่อไป

3. โรงเรียนขอปฏิเสธข่าวการบังคับให้ นางอรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ พี่เลี้ยงจุ๋ม แจ้งความต่อผู้ปกครอง และไม่เคยมีเจตนาดังที่ถูกกล่าวอ้าง พร้อมกับขอสงวนสิทธิ์ดําเนินคดี หากสอบสวนแล้วพบว่า นางอรอุมา ปลอดโปร่ง ให้ข้อมูลบิดเบือน