ช่องทางธรรมชาติ ทุกคนต้องช่วยตรวจสอบ
ช่องทางธรรมชาติกลายเป็นจำเลยสำคัญของการติดเชื้อโควิด-19 ในไทย ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงยืนยันถึงความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าออกประเทศตามแนวชายแดน โดยเฉพาะหลังได้รับรายงานการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงแพร่ระบาดโรคโควิด-19
การตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากในประเทศยังคงมีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษเพราะถ้าไม่จัดการให้ดีอาจจะทำให้การระบาดกระจายวงกว้างได้ โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 6 ธ.ค.2563 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศไม่เข้าสถานที่กักกัน 3 ราย และเป็นผู้อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 10 ราย โดยข้อมูลสำคัญที่มีนัยต่อการวางแผนป้องกัน คือ ผู้ติดเชื้อ 3 ราย ดังกล่าวเดินทางมาจากเมียนมา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อหลายรายก่อนหน้านี้เดินทางมาจากเมียนมาเช่นกัน
การปกปิดข้อมูลของผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองเป็นอุปสรรคสำคัญของการสอบสวนโรคและการป้องกันโรค ซึ่งที่ผ่านมากรมควบคุมโรครายงานว่าตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.ถึงวันที่ 6 ธ.ค.2563 มีผู้ติดเชื้อจากในประเทศ 5 ราย แต่จากการสอบสวนโรคเชิงลึก พบว่า ผู้ติดเชื้อมีการปกปิดความจริง 2 ราย และทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการสอบสวนโรคเพื่อติดตามเส้นทางก่อนที่จะพบว่าติดเชื้อมากขึ้น และต้องใช้หลักฐานต่างๆ จำนวนมากจึงจะทำให้ผู้ติดเชื้อยอมรับว่าเดินทางกลับจากต่างประเทศและติดเชื้อจากต่างประเทศ
ช่องทางธรรมชาติกลายเป็นจำเลยสำคัญของการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงได้ออกมายืนยันถึงความเข้มงวดในการป้องกันและเฝ้าระวังการลักลอบเข้าออกประเทศตามแนวชายแดน รวมทั้งเพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย หลังจากได้รับรายงานการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ย่อมส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ ซึ่งนักท่องเที่ยวชายไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในภาคเหนือเพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็นของทุกปีทั้งจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายที่พบผู้ติดเชื้อ รวมถึงจังหวัดอื่นในภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภาคเหนือต่างคาดหวังถึงการทยอยฟื้นตัวในธุรกิจท่องเที่ยวหลังจากซบเซามานาน แต่เมื่อเจอสถานการณ์การติดเชื้อในปัจจุบันทำให้หลายคนลังเลที่จะไปเที่ยว
ต้องยอมรับว่าการป้องกันช่องทางธรรมชาติไม่มีทางควบคุมได้ 100% จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องรวมกันเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 นับตั้งแต่ตัวเราเองที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมในการดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเดินทางเข้าออกประเทศ รวมถึงการกักตัวเองเพื่อเฝ้าระวังโรค และในชุมชนที่ต้องร่วมกันดูแลบุคคลที่มีความเสี่ยงในการจะติดเชื้อหรือจะแพร่เชื้อ ในขณะที่ภาครัฐจำเป็นต้องติดตามข้อมูลเพื่อป้องกันการระบาดอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศไทยควบคุมการระบาดให้ได้มากที่สุด