กรมควบคุมโรค เตือน “วัคซีนโควิดปลอม” ระบาดหลายประเทศ
กรมควบคุมโรค เตือนวัคซีนปลอมระบาด ย้ำวัคซีนมีผลข้างเคียง ต้องมีความปลอดภัย ผ่านมาตรฐาน อย. ส่วน รพ. เอกชน ไม่ปิดกั้นหากนำเข้าวัคซีนที่ได้มาตรฐาน ขณะที่ WHO ห่วงเว็บไซต์แอบอ้างขายสินค้าทางการแพทย์ เหตุประชาชนนิยมวินิจฉัยตัวเอง ซื้อยาไม่ปรึกษาแพทย์
วันนี้ (9 มกราคม 2564) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องการฉีดวัคซีน ว่า เนื่องจากเรื่องของวัคซีนเป็นเรื่องที่ทั่วโลกจับตา ที่ผ่านมา พบว่า สหรัฐมีผู้ฉีดวัคซีนโควิดของไฟเซอร์เจอผลข้างเคียงกว่า 4 พันราย โดยศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐ (CDC) รายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) จากผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเกือบ 4,400 ราย โดยมี 21 ราย ยืนยันว่า มีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน
ทั้งนี้ FDA ได้ประกาศอนุติการใช้วัคซีนโควิด-19 ของไฟซอร์-ไบโอเอ็นเทค ในกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งฉีดเป็น 2 โดส ห่างกัน 21 วัน โดยมีผู้เข้ารับวัคซีนโดสแรกแล้ว 1,893,360 คน เมื่อนับถึงวันที่ 23 ธ.ค. 2563 หลังจากนั้น ได้รับแจ้งว่าผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนรวม 4,393 ราย โดยในจำนวนนี้ 175 รายจะได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า อาจมีโอกาสเกิดอาการแพ้ขั้นรุนแรง ซึ่งรวมถึงอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน
ทั้งนี้ ผู้เข้ารัการฉีดวัคซีนอีก 21 รายได้รับการยืนยันแล้วว่ามีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน ซึ่งรวมถึง 17 รายที่มีประวัติการแพ้หรืออาการแพ้ โดย 7 จาก 17 รายนี้เคยมีประวัติอการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันอยู่แล้ว
“เนื่องจากกระบวนการผลิตวัคซีน ต้องมีกระบวนการด้านความปลอดภัย แต่จากการระบาดของโควิด-19 เป็นการระบาดรุนแรง ดังนั้น ประเทศต่างๆ จึงอนุญาตให้ใช้แบบมีเงื่อนไข คือ ยังวิจัยไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่มีศึกษาในมนุษย์ว่าได้ผล อย่างไรก็ตาม ต้องมีการติดตาม โดยเฉพาะอาการแพ้รุนแรง หรือบางรายเสียชีวิต"
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า เช่นเดียวกัน ประเทศไทย ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนที่จะมาฉีดเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนโยบายจะฉีดให้คนไทยฟรีโดยไม่คิดมูลค่า เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ป่วย ของพี่น้องประชาชน รวมถึง บุคลากรทางสาธารสุข อสม. ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ดังนั้น วัคซีนที่มาฉีดในไทยครั้งนี้ ต้องได้รับการรับรอง ตรวจสอบ จาก อย. และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก่อน จึงจะอนุญาตให้ฉีดกับพีน้องคนไทยได้ อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนกับผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้เสมอ ต้องติดตามรอบด้าน
อีกประการหนึ่ง มีปัญหาเรื่องวัคซีนปลอมระบาดหลายประเทศ โดย สำนักงานตำรวจสหภาพยุโรป หรือยูโรโพลได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับวัคซีนปลอมที่จำหน่ายทางออนไลน์ โดย จาน ออบ เจน ออร์ท โฆษกยูโรโพล ระบุว่า เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการวัคซีนจำนวนมากกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรม ในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการจำหน่ายวัคซีนปลอมผิดกฎหมาย หรือวัคซีนที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งการขโมยสินค้าทางการแพทย์ เช่น ขวดใส่วัคซีน
นอกจากนี้เมื่อเดือนมีนาคม องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่อ้างว่าจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่สามารถรักษาหรือป้องกันโควิด -19 ได้ หลอกขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานและปลอมแปลง เนื่องจากประชาชนจำนวนมากนิยมวินิจฉัยตัวเองและซื้อยารักษาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
“ขอย้ำว่า วัคซีนไม่สามารถซื้อได้ตามท้องตลาด ประเทศไทยต้องสั่งจองล่วงหน้าเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้น การที่ใครแอบอ้างว่า สามารถหาวัคซีนมาได้ โดยส่วนใหญ่ไม่เป็นข้อเท็จจริง ย้ำเตือนว่าขอให้ระมัดระวังในการรับข่าวสาร อย่างไรก็ตาม คำถามที่ว่า รพ. เอกชนสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่ เรียนว่า โดยนโนบาย รัฐบาล จะจัดหามาฉีดให้ทุกคน แต่ก็ไม่มีการปิดกั้นเอกชน หากท่านสามารถมีวัคซีนที่ อย. หรือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รับรองว่าปลอดภัย สามารถมาฉีดได้ ในภาพรวมถือว่าดีที่มีส่วนร่วมกัน แต่ต้องระมัดระวัง กลไกการจัดหาให้ถูกต้องตามกฎหมาย”
“สำหรับการฉีดวัคซีน แม้จะอนุญาตให้ฉีดได้ แต่กระบวนการยังไม่จบ หลังจากฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เดือน ต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ ขณะเดียวกัน การเสียชีวิตว่าเกิดจากวัคซีนจากการติดตามข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศ ยังไม่ยืนยันว่าเกิดจากวัคซีน อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ดังนั้น ต้องฉีดวีคซีน ควบคู่กับการป้องกันการระบาด และต้องไม่ละเลยความปลอดภัย” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว