ถูกใจสายเมื่อย ‘แอพจองคิว’ ทางออกใหม่ร้านนวดแผนไทยในชุมชน
ทางรอด “ร้านนวด” ลดเสี่ยงติดเชื้อ “โควิด” ด้วยการจองคิวออนไลน์ผ่าน “แอพพลิเคชั่น”
สถานบริการนวด คือหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างจังในช่วงวิกฤต โควิด–19 เพราะเป็นสถานที่ที่มีความจำเป็นต้องสัมผัสและติดต่อกับคนที่เข้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก ดังนั้นทั้งมาตรการเฝ้าระวังและความหวาดกลัว ล้วนทำให้มีผู้ใช้บริการลดลง และบางส่วนต้องปิดกิจการชั่วคราว ส่งผลถึงรายได้ของผู้ประกอบอาชีพนวดแผนไทยที่น้อยลง หรือขาดรายได้หล่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว
สถานการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับ “ศูนย์นวดแผนไทยชุมชนหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่” ศูนย์นวดแผนไทยของชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด–19 จากผู้ใช้บริการที่ลดลง มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น หนึ่งในสมาชิกทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จึงเริ่มต้นโครงการ “นวัตกรรมชุมชนเพื่อยกระดับการบริหารจัดการและขยายช่องทางการสื่อสารการตลาดของศูนย์นวดแผนไทยชุมชนหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่” สำหรับการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร.พงศ์กร จันทราช อาจารย์มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นและผู้รับผิดชอบโครงการฯ เล่าถึงวิธีการดำเนินงานว่า มีแผนสองส่วนที่ดำเนินควบคู่กันไป ส่วนแรกคือการพัฒนาระบบ โครงการฯ ได้นำสารสนเทศและการสื่อสาร รูปแบบ “เว็บแอพพลิเคชั่น” เข้ามาช่วยจัดการข้อมูล เพื่อทำให้การบริหารจัดการภายในศูนย์นวดแผนไทยฯ แห่งนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายในเว็บแอพพลิเคชันมีลักษณะเด่นคือ ช่วยให้ผู้ใช้บริการจองคิว และตรวจสอบคิวก่อนเข้าใช้บริการ ซึ่งช่วยลดความแออัดของผู้เข้ามารอใช้บริการ ทั้งยังช่วยเพิ่มการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) อันเป็นวิธีการหนึ่งในการลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19
นอกจากนี้ โครงการฯ ได้ดำเนินงานส่วนที่ 2 คู่ขนานไปด้วย คือการจัดฝึกอบรมการสื่อสารทางการตลาด ร่วมกับกลุ่มเป้าหมายทั้ง 68 คน ในกลุ่มสมาชิกชมรมนวดแผนไทยตำบลหนองป่าครั่ง
ดร.พงศ์กร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ อยู่ในช่วงการเรียนรู้วิธีปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่นการปรับเปลี่ยนเนื้อหาที่เน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยของการให้บริการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มาตรการรักษาความสะอาด หรือมาตรการลดจำนวนคน ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ช่องทางต่างๆ ทั้งทางเพจเฟซบุ๊คในชื่อ “นวดแผนไทยหนองป่าครั่งสาขา1” และยูทูบในช่อง “นวดแผนไทยหนองป่าครั่ง”
ไม่เพียงแต่กลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่ทางด้านศูนย์นวดแผนไทยฯ เองยังได้ปรับเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสับเปลี่ยนเวลาของพนักงาน รวมถึงวางแผนใช้ระบบจองคิวจาก “แอพ” ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ในช่วงพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานจริง จากแนวทางการปรับตัวดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันพนักงานและเจ้าหน้าที่ในศูนย์นวดแผนไทยฯของชุมชน ยังคงประกอบอาชีพและสร้างรายได้ในช่วงสภาวะวิกฤตอย่างมั่นใจได้ต่อไป
ผลที่เกิดภายในโครงการฯ จากการนำ “แอพพลิเคชั่น” เข้ามาช่วยบริหารจัดการ ผนวกรวมกับการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ศูนย์นวดแผนไทยฯ จากเดิมอาจเคยเป็นสถานที่ที่หลายคนกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยจากการแพร่กระจายของโรค
แต่การปรับตัวโดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพเป็นสำคัญ จึงทำให้ศูนย์นวดแผนไทยฯ ยังคงเป็นสถานที่ผ่อนคลายความเมื่อยล้าที่จากทำงานของใครหลายคน ทั้งยังช่วยให้พนักงานภายในศูนย์นวดแผนไทยของชุมชนยังคงมีรายได้จากการประกอบอาชีพในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ