วัคซีนองค์การเภสัช อีกหนึ่งความหวังของไทย
ความคืบหน้าล่าสุดของวัคซีนโควิดที่พัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม อีกหนึ่งความหวังของคนไทย เนื่องจากเตรียมทดสอบในมนุษย์ระยะแรก มี.ค.นี้ หากผ่านการทดลองในมนุษย์ครบ 3 ระยะ จะขอขึ้นทะเบียนกับ อย. นับหยดน้ำในทะเลทรายอย่างแท้จริง อย่างน้อยเป็นวัคซีนสำรองให้คนไทย
เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยผู้บริหาร สธ. และผู้บริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกันแถลงข่าวการเดินหน้าทดสอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย ที่พัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม กำหนดทดสอบในมนุษย์ระยะแรกในไทยเดือน มี.ค.นี้ หากผ่านการทดลองในมนุษย์ครบ 3 ระยะ จะขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เสมือนเป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 ของ อภ.ในนามกระทรวงสาธารณสุข นับตั้งแต่ประเทศเผชิญวิกฤติโควิด-19
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ค.2563 อภ.ร่วมมือกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) เพื่อวิจัยพัฒนาวัคซีนชนิดเชื้อตายจากการตัดต่อยีนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ SARS-CoV2 เข้าไปในยีนของไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Inactivated influenza virus-based COVID-19 vaccine) เพื่อเป็นเชื้อไวรัสตั้งต้น หากสำเร็จจะนำเชื้อไวรัสตั้งต้นนี้ผลิตเป็นวัคซีนโดยใช้เทคโนโลยีการใช้ไข่ไก่ฟักของ อภ. ที่ใช้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่อยู่เดิม เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาทางคลินิกต่อไป
สำหรับ อภ.ต้องบอกว่ามีความพร้อม จากปัจจัยพื้นฐาน มีโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นทุนเดิม สามารถนำมาประยุกต์และก่อสร้างต่อยอดเพิ่มเติมเป็นโรงงานสำหรับผลิตวัคซีนโควิดได้เร็วขึ้น มีเครื่องมือ เครื่องจักรที่ทันสมัย รองรับการผลิตทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ ได้ในหลายรูปแบบตามผลสำเร็จของการวิจัย โดยเฉพาะด้านการบรรจุวัคซีนโควิด ที่สามารถทำในระดับอุตสาหกรรมได้ทันที ยังไม่นับการมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีน
ทว่าช่วงที่ผ่านมา ข่าวความคืบหน้าของวัคซีน อภ.ถูกละเลย ไม่มีการประชาสัมพันธ์จากกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่เจ้ากระทรวงที่ขะมักเขม้นประชาสัมพันธ์วัคซีนแอสตร้าเซนิก้า เป็นตัวตั้งตัวตีตั้งแต่ของบประมาณ เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จนได้รับอนุมัติ ยังแสดงความมั่นใจกำหนดไทม์ไลน์วัคซีนนำเข้า สามารถฉีดให้คนไทยเร็วขึ้นกว่ากำหนดหรือภายในเดือน ก.พ. กระทั่งปัจจุบันได้เลื่อนออกไปเป็นเดือน มิ.ย. แม้จะทำหน้าที่เพื่อให้คนไทยได้ใช้วัคซีนนำเข้าให้เร็วที่สุด แต่ต้องไม่ละเลยวัคซีนในประเทศที่ผลิตโดยคนไทย หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของ สธ.
เกิดอะไรขึ้นอาจจะเสียเวลาในการฟื้นฝอยหาตะเข็บ เราเห็นว่าชั่วโมงนี้ วัคซีนขององค์การเภสัชกรรมคือหยดน้ำในทะเลทรายอย่างแท้จริง อย่างน้อยเป็นวัคซีนสำรองให้คนไทย เรายังมั่นใจในความรู้ความสามารถและประสบการณ์การผลิตวัคซีนหลายชนิดมาก่อน โดยเฉพาะผลงานชิ้นโบแดงอย่างวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่สำคัญวัคซีนของ อภ.ไม่เกิดปัญหาเหมือนวัคซีนนำเข้าล็อตที่ผลิตในประเทศอิตาลี ซึ่งถูกกักไว้ใช้ในประเทศ วัคซีน อภ.ไม่มีมีปัญหาการขนส่ง แน่นอน ไม่มีปัญหาที่เกิดจากปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม ยิ่งกว่านั้นเป็นความภูมิใจของคนไทย