‘เราชนะ’ ที่โคราช 'กลุ่มผู้สูงอายุ-กลุ่มพิเศษ' แห่ใช้สิทธิ์คึกคัก

วันแรกที่ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ในกลุ่มพิเศษคือผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรก พบว่า คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าและทยอยใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

5 มีนาคม 2564 เป็นวันแรกที่ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ใน “กลุ่มพิเศษ”ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรก ตามมาตรการที่รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ซึ่งกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ได้แก่ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต,ไม่สามารถที่จะมีสมาร์ทโฟน,ไม่สามารถเข้างานแอพพลิเคชั่นเป๋าตังได้หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงเช่นผู้สูงอายุผู้พิการผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนเอง หรือไม่สามารถเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินสิทธิผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังได้ซึ่งบรรยากาศการใช้สิทธิ์เราชนะในวันนี้ที่จังหวัดนครราชสีมา พบว่า คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยกลุ่มพิเศษทยอยเข้ามาใช้สิทธิ์ในร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ กันอย่างต่อเนื่อง

โดยที่ร้าน “มิลค์ กะ มอส” ถนนเดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา มีประชาชนในพื้นที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุใน “กลุ่มพิเศษ” เดินทางมาตรวจสอบสิทธิ์และใช้สิทธิ์กับทางร้านด้วย โดย นางสาวสุปราณี มะสันเทียะ แคชเชียร์ของร้านฯ บอกว่า มีผู้สูงอายุมาสอบถามเพื่อจะใช้สิทธิ์ในโครงการ “เราชนะ” ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถใช้สิทธิ์ได้เกือบทั้งหมด โดยสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดในโทรศัพท์มือถือ หรือจะนำบัตรประชาชนมารูดกับเครื่องก็ได้ แต่ผู้สูงอายุจะต้องจำรหัส 6 ตัวให้ได้ ถ้าจำไม่ได้ ก็จะรูดบัตรใช้สิทธิ์ไม่ได้ นอกจากนี้ มีผู้สูงอายุบางคนที่นำบัตรประจำตัวไปตรวจสอบสิทธิ์ ก็พบว่า ยังอยู่ระว่างการตรวจสอบสิทธิ์ ยังไม่ขึ้นสิทธิ์ จึงยังไม่มีวงเงินในโครงการฯ เข้า ทำให้ยังไม่สามารถใช้สิทธิ์จับจ่ายซื้อสินค้ากับร้านค้าได้ ซึ่งเมื่อชี้แจงเหตุผล ลูกค้าผู้สูงอายุเหล่านี้ก็เข้าใจดี ไม่ได้โวยวายอะไร

ด้านนางปรางค์ทอง ฉันทะโกโส อายุ 83 ปี หนึ่งในชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าที่ร้านฯ บอกว่า ไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์โครงการ “เราชนะ” เนื่องจากอยู่คนเดียว ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ไม่เป็น ส่วนโครงการช่วยเหลือต่างๆของรัฐ ตนก็ไม่ได้ติดตามข่าวสาร จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการฯ เพราะมองว่า ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับคนที่อายุมากแล้ว จะเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้าแต่ละครั้งก็ลำบาก และที่สำคัญคือ ถ้าลงทะเบียนไปแล้ว กลัวจำรหัสไม่ได้ ก็จะยิ่งยุ่งมากมากขึ้น จึงเลือกซื้อสินค้าด้วยเงินสดดีกว่า เพราะนานๆ จึงจะแวะมาซื้อสินค้าสักที

ส่วนนายสมควร คุณตา อายุ 73 ปี ผู้สูงอายุอีกรายที่เดินทางมาใช้สิทธิ์โครงการเราชนะ บอกว่า ได้ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการไว้แล้วที่ธนาคารกรุงไทยฯ ใกล้บ้าน และทราบว่ากลุ่มพิเศษสามารถใช้สิทธิ์จับจ่ายได้แล้ววันนี้เป็นวันแรก จึงเดินทางมาที่ร้านแห่งนี้ตามคำแนะนำของธนาคารฯ ซึ่งเมื่อไปขอทางร้านตรวจสอบสิทธิ์ พบว่า มีวงเงินเข้าแล้ว ก็รู้สึกดีใจมากที่มีเงินพิเศษก้อนนี้มาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ส่วนการที่ต้องมาต่อคิวใช้บริการค่อนข้างยาวหลายคิวนั้น ตนมองว่า อย่าคิดอะไรมาก เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่ได้รับสิทธิ์ เมื่อมีวงเงินจากรัฐบาลมาช่วยเหลือ ก็อยากจะมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นไปไว้ใช้ในครัวเรือนกันทั้งนั้นในช่วงโควิด-19 ยังแพร่ระบาด