แนะเตรียมความพร้อม รับมือ'ธุรกิจใหม่'รองรับสังคม 'Automation'
"คณบดี CIBA DPU" คาดศตวรรษที่ 21 คนตกงานมากขึ้น เหตุปฎิวัติอุตสาหกรรม แนะ "ธุรกิจใหม่" คิดเชิงนวัตกรรม ปรับตัวเข้าสู่สังคม "Automation"
ผศ.ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลานานส่งผลให้คนตกงานเป็นจำนวนมาก โดยจากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวมปี 2563 ของสภาพัฒน์ฯ ระบุว่า ผลกระทบของ "โควิด-19" ทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาก โดยมีอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 1.69 เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2562 ที่ร้อยละ 0.98 หรือมีจำนวนผู้ว่างงานประมาณ 6.5 แสนคน
ในจำนวนดังกล่าว เชื่อว่าส่วนหนึ่งยังไม่ได้วางแผนการว่างงานในอนาคตไว้ ดังนั้น เมื่อว่างงานจึงต้องรีบหาอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว ขณะเดียวกันงานใหม่ที่ทำส่วนใหญ่มักจะเหมือนๆกันและแย่งตลาดแรงงานกันเอง
- "ธุรกิจใหม่"ต้องสร้างนวัตกรรม เรียนรู้สิ่งใหม่
สำหรับสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากหลายคนถูกปลูกฝังให้ทำงานและสร้างความก้าวหน้าในองค์กรตามสาขาที่เรียนเท่านั้น ซึ่งสวนทางกับภาพความเป็นจริงในปัจจุบันที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้อยู่รอดได้ในวิกฤตนี้ส่วนใหญ่ คือ ผู้ที่สามารถปรับตัวได้ในทุกการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ
ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ในศตวรรษที่ 21 คนมีแนวโน้มตกงานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ครั้งที่ 4 ธุรกิจส่วนใหญ่จะเน้นความเป็น "Automation" หรือ ใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติเข้ามาแทนที่คน เกิดการดิสรัปชันในวงกว้าง ส่งผลให้วิถีชีวิตผู้คน รวมถึงอาชีพและทักษะในการทำงานเปลี่ยนแปลงไป ส่วนการดำรงชีพให้อยู่รอดในยุคนี้ได้นั้น ต้องอาศัยการยกระดับรายได้ปานกลางไปสู่รายได้ที่สูงขึ้น
- แนะคนรุ่นใหม่ พัฒนาตนเองรับสังคม "Automation"
ทั้งนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นนั้น มาจากการสร้าง "นวัตกรรม"และจากการเป็นเจ้าของธุรกิจ สอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล ที่ผลักดันให้เกิด"ผู้ประกอบการ"สมัยใหม่มากขึ้น หรือ SME และ Startup ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวตั้งรับในเรื่องดังกล่าว ด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่และการคิดเชิงนวัตกรรมมากขึ้น
“โรคระบาดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดนวัตกรรมใหม่มากขึ้น เมื่อคนเกิดความกลัวมากขึ้น การปฏิสัมพันธ์กันจะลดลง โลกอาจไปไกลถึงขั้นคิดค้นการสร้างอวตาร์หรือหุ่นยนต์ มาทำงานแทนตนเอง โดยผ่านการสั่งการจากคลื่นสมอง ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคนหันมาพัฒนาตนเองหรือพัฒนาทักษะ ก้าวข้ามกรอบเดิมๆ ที่มองว่าอาชีพ ที่มาจากสายงานที่เรียนจะทำให้เติบโตในสายงานอาชีพนั้นๆ เพราะอนาคตเชื่อว่าเมื่อคนเกิดความกลัวโรคภัยไข้เจ็บ แนวโน้มที่คนจะอยู่ร่วมกับหุ่นยนต์จึงมีสูง”ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าว