ภาพดาวเทียม จุดแดงหนาแน่น แสดง'โควิด-19'ระบาดในกทม.

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 พ.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ประเทศไทยรายงานติดเชื้อเพิ่ม จำนวน 9,635 ราย แยกเป็นจากระบบรพ.และค้นหาเชิงรุก 2,773 ราย ในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 6,853 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 25 คน ระลอกเดือนเม.ย.ติดเชื้อสะสม 82,219 ราย เสียชีวิตสะสม 520 คน รักษาหาย 39,774 ราย ยังรักษา 43,268 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 1,226 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 400 รายคิดเป็น 33%ของผู้มีอาการหนัก ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 111,082 ราย เสียชีวิตสะสม 614 คน

ผู้เสียชีวิต 25 ราย 18 รายอยู่ในกทม. มี 1 ราย อยู่ในจ.สุพรรณบุรี สุโขทัย สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี นครสวรรค์ และชัยนาท โดยมีโรคประจำตัว อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดสมอง โรคปอดเรื้อรัง เป็นต้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงเกิดจากคนในครอบครัว 12 ราย นอกนั้น เดินทางไปสถานที่ระบาด ไปสถานบันเทิง และมีอาชีพเสี่ยง อีกทั้งพบว่า นอนนานสุด 31 วันตั้งแต่พบเชื้อและเสียชีวิต ขณะที่อายุค่ากลางอยู่ที่ 60 ปี

"ขณะนี้เราคุมเข้มชายแดนอย่างเต็มที่ หากเป็นคนไทยขอให้เข้ามาอย่าลักลอบ เราจะดูแลท่านอย่างดี ขอให้แสดงตัว เราเน้นการควบคุมโรคเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยอดรวมเมื่อวานนี้(16 พ.ค.) มีคนลักลอบเข้ามา 87 คน โดยพบว่าติดชายแดน 72 คน มาตรวจพบในพื้นที่ตอนในถึง 15 คน ซึ่งน่าห่วง แม้หลายคนบอกว่าพื้นที่ตอนในเข้ามาอยู่นานพอสมควร ซึ่งวางใจได้ แต่เบาใจไม่ได้ แต่ 72 คนติดชายแดนยังต้องระวัง ซึ่งต้องขอขอบคุณฝ่ายมั่นคงทำงานอย่างเข้มข้น" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

17 จ.ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64-17 พ.ค.64 พบว่ามี 10 อันแรกติดเชื้อสูงสุด อันดับ 1 คือ กรุงเทพมหานคร อันดับ 2 นนทบุรี อันดับ 3 สมุทรปราการ อันดับ 4 เชียงใหม่ อันดับ 5 ชลบุรี อันดับ 6 ปทุมธานี อันดับ 7 สมุทรสาคร อันดับ 8 ประจวบคีรีขันธ์ อันดับ 9 สุราษฎร์ธานี และอันดับ 10 สงขลา ส่วนผู้ติดเชื้อวันที่ 17 พ.ค. ภาพรวมของประเทศ ไม่มีรายงานติดเชื้อ อยู่ 17 จังหวัด คือ ลำพูน ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครพนม น่าน สุโขทัย ชุมพร แพร่ อุตรดิตถ์ ชัยนาท หนองคาย พังงา อำนาจเจริญ มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ แลพสตูล

เรือนจำติดเชื้อ 49%
"ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้อยู่ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 2,362 รายซึ่งเพิ่มมากขึ้น ส่วน 61 จังหวัดรวมกัน 411 ราย ทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ในเรือนจำที่เป็นการค้นหาเชิงรุกในเรือนจำ 8 แห่ง ซึ่งจะรายงานตัวเลขเป็นก้อน พบว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6,853 ราย รวมติดเชื้อสะสม 10,748 ราย จากการตรวจแล้ว 24,357 ราย รอผลอีก 2,235 ราย อัตราการติดเชื้อ 49% แยกเป็น กรุงเทพฯ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หญิงกลาง กลางคลองเปรม พิเศษธนบุรีและบำบัดพิเศษกลางตรวจ 14,429 ราย พบติดเชื้อ 6,749 ราย คิดเป็น 17% เรือนจำจังหวัดนนทบุรีตรวจ 2,661 ราย ติดเชื้อ 48 ราย รอผล 2214 ราย คิดเป็น 11 % เรือนจำจังหวัดฉะเชิงเทราต รวจ 798 ราย ติดเชื้อ 22 ราย รอผล 21 ราย คิดเป็น 3% และเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจ 6,469 ราย ติดเชื้อ 3,929 ราย คิดเป็น 61 %"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

25เขตระบาดมากเพิ่มขึ้นเร็ว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯโดยจัดกลุ่มเป็น กรุงเทพฯชั้นใน และ ขอบนอกเขตหลักสี่ พบว่า เขตที่มีปริมาณผู้ป่วยสูงมากกว่า 6 ต่อพันประชากร ได้แก่ หลักสี่ ป้อมปราบศัตรูพ่าย ราชเทวี คลองเตย และห้วยขวาง จากเดิมที่เป็นพื้นที่สีเหลืองในช่วงเดือน มี.ค. - 15 เม.ย. ก็กลายมาเป็นพื้นที่สีแดง ทั้งนี้ ภาพดาวเทียมจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การ มหาชน) หรือ GISTDA แสดงให้เห็นถึงความหนาแน่นของการระบาดโควิด 19 ในพื้นที่กทม. ซึ่งสีแดง คือ อยู่ระหว่างการควบคุมโรคและพบผู้ป่วยต่อเนื่อง ส่วนสีเหลือง สถานการณ์ค่อนข้างควบคุมได้

กทม.มีประชากรแฝงและจรราว 10 ล้านคน ใน 50 เขต ขณะนี้ได้มีการแบ่งเป็น 4 โซนเขตตามความเร็วและขนาดของการระบาดช่วง 30 วันที่ผ่านมา(16 เม.ย -15 พ.ค.) ประกอบด้วย 1.ปริมาณการระบาดมากและ เพิ่มเร็ว 25 เขต 2. ปริมาณการระบาดมากแต่เพิ่มช้า 6 เขต 3.ปริมาณการระบาดไม่มากแต่เพิ่มเร็ว 17 เขต และ 4.ปริมาณการระบาดไม่มากและเพิ่มช้าเฝ้าระวังตามระบบ 2 เขต ซึ่งจะต้องเข้าไปดำเนินการตามมาตรการต่างๆเพื่อดึงแต่ละพื้นที่ให้มาอยู่ในโซนที่ 4 ให้ได้

28 คลัสเตอร์กระจาย 19 เขต
ส่วนสถานการณ์การระบาดตามเหตุการณ์ ยังคงมีทั้งหมด 28 คลัสเตอร์ กระจายใน 19 เขต ได้แก่ ดินแดง วัฒนา คลองเตย หลักสี่ ลาดพร้าว ราชเทวีพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สวนหลวง ปทุมวันสาทร สัมพันธวงศ์ จตุจักร บางรัก ประเวศวังทองหลาง รามคำแหง บางกอกน้อยและห้วยขวาง โดยมีคลัสเตอร์ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นต่อวันของผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ 2.แฟลตดินแดง เขตดินแดง 3.ตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง 4.คลองถมเซ็นเตอร์และวงเวียน 22 ก.ค. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และ 5.แคมป์คนงานก่อสร้างเขตวัฒนา

"ทั้งนี้ ผลการค้นหาเชิงรุกวันที่ 15 พ.ค. ดำเนินการ 5,642 ราย พบติดเชื้อ 371 ราย คิดเป็น 6.58% หากพิจารณาง่ายๆ ท่ากับว่าในกทม.ทุก 100 คนจะมีคนติดเชื้อราว 7 คน" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

แคมป์คนงานหลักสี่ติดเชื้อ 53%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับแคมป์คนงานก่อสร้างของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่หลักสี่นั้น จากการตรวจแล้ว 1,667 ราย พบติดเชื้อ 885 ราย คิดเป็น 53% คนไทย 15% และแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน 77% อย่างไรก็ตาม การสอบสวนโรคพบว่ามีอีก 11 บริษัทที่เป็นซับ คอนแทรค(subcontract)ของแคมป์งานนี้ จึงได้มีการเร่งติดตามหรือขอให้เสนอตัวกับสำนักเขตหลักสี่หรือสำนักอนามัย กทม.เพื่อร่วมมือในการดำเนินการไม่ให้มีการกระจายโรค โดยพบว่ามีอีก 8 แคมป์ของบริษัทอื่นที่กระจายอยู่ ซึ่งมีการเข้าไปตรวจสอบด้วย ขณะนี้มีการดำเนินการ 8 มาตรการ คือ 1.การเฝ้าระวังในแคมป์ 2.การแยกผู้ป่วย 3.การกักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4.การเฝ้าระวังนอกแคมป์ 5.การsealed แคมป์ก่อสร้าง 6.การจัดการสิ่งแวดล้อมในแคมป์ 7.การบริหารจัดการวัคซีนสำหรับพท้นที่ระบาด เป้าหมาย 8,000 โดส และ8. การติดตามบริษัทซับคอนแทรค 11 บริษัทและสถานที่ก่อสร้าง 2 แห่ง
"ขณะนี้แคมป์คนงานถูกจำกัดพื้นที่และไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงาน อย่างน้อย 14 วัน ซึ่งขอความร่วมมือคนไทยและแรงงานเพื่อนบ้าน อาจไม่สะดวกสบายแต่ขอให้เสียสละถือเป็นการช่วยตัวเราเองและชุมชน" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

และมี 6 ชุมชนอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง คือ ชุมชนแฟลตตำรวจอิสระ ชุมชนอยู่แล้วรวย ชุมชนแฟลตตำรวจส่วนกลาง ชุมชนกองบัญชาการศึกษา ชุมชนคนรักถิ่นแ ละชุมชนประสุขสันต์ มีประชากรราว 6,118 คน ขอให้ผู้นำชุมชนเป็นบุคคลสำคัญในการระดมความสามารถชุมชนในการดูแลความสะอาดสิ่งต่างๆรอบตัว และกำชับสุขอนามัยส่วนบุคคล