ศธ.จัดทำแพคเกจ 'ค่าเทอม'ลดภาระผู้ปกครอง
ศธ.เตรียมปรับ 'สถานศึกษา' ทั้งโรงเรียน 233 แห่ง และวิทยาลัยอาชีวะ 6 แห่ง ใน 'พื้นที่สีแดงเข้ม' เป็น 'รพ.สนาม'รองรับผู้ป่วยโควิด 19 พร้อมจัดทำแพคเกจ 'ค่าเทอม'ลดภาระผู้ปกครอง เสนอนายกฯ20ก.ค.นี้
วันนี้ (19 ก.ค.2564) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ร่วมกับผู้บริหารระดับสูง กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประชุมหารือการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19
น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ศธ.มีความห่วงใย อยากสร้างขวัญกำลังใจ และสร้างความปลอดภัยให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยได้มีข้อสั่งการให้โรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 233 แห่ง และสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 6 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งหมด 239 แห่ง
ได้ปรับพื้นที่ 'สถานศึกษา' ให้เป็น รพ.สนาม รองรับประชาชนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงเข้ม เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อยังวิกฤตหนักอยู่
- เล็งขอความเห็นจากชุมชนรอบ'สถานศึกษา'
โดยในส่วนของศธ.จึงหวังที่จะเป็นหน่วยงานที่จะช่วยเหลือและบรรเทาภาระภาครัฐได้อีกทางหนึ่ง โดยจะประสานกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการตรวจสอบมาตรฐานการใช้งานให้เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าจะรองรับผู้ติดเชื้อได้เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การใช้สถานศึกษาจัดตั้งเป็น โรงพยาบาลสนาม นั้น จะต้องมีการขอความเห็นจากชุมชนรอบสถานศึกษาด้วย เพื่อสร้างความสบายใจให้เกิดขึ้นกับทั้ง 2 ฝ่าย
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04001/ว3378 ถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต และผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษ เรื่องการอนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่ในสถานศึกษาในสังกัดเป็น รพ.สนาม โดยในหนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ทำให้โรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามในแต่ละพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการรักษา
ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนและสังคมจึงขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษได้แจ้งให้สถานศึกษาในสังกัดพิจารณา ดังนี้
1. กรณีที่อาคารสถานที่ที่ไม่ได้ใช้งานในการจัดการเรียนการสอนแล้ว เช่น สถานศึกษายุบรวมให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ใช้เป็นอาคารสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนาม
2. กรณีที่สถานศึกษาไม่ได้ใช้ในการจัดการเรียนแบบออนไซต์ (On site) เมื่อมีคำร้องขอใช้อาคารสถานที่ในสถานศึกษาเป็นโรงพยาบาลสนาม ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ใช้เป็นอาคารสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนาม
- เล็งหาแพคเกจ 'ค่าเทอม' ช่วยลดภาระผู้ปกครอง
ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต และสำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษรายงานการขออนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนามให้ สพฐ.ได้ทราบต่อไป
ส่วน มาตรการลดภาระผู้ปกครองและนักเรียนในส่วนของค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเทอมนั้น ขณะนี้ ศธ.อยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งได้วางแผนจัดโครงการแพคเกจที่เหมาะสมไว้แล้ว ซึ่งจะมีการประกาศให้ผู้ปกครองรับทราบในเร็วๆ นี้
โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ก.ค.นี้ จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแนวทางในเบื้องต้นก่อน
ส่วนมาตรการการควบคุมการแพร่รระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ของศบค.ชุดใหญ่ที่ยืนยันการ ล็อคดาวน์และขอความร่วมมือหน่วยงานรัฐและเอกชน Work Form Home แบบ 100% นั้น ได้มอบหมายให้นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.จัดทำประกาศให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของศธ.ทุกคนปฎิบัติตามมาตรการของ ศบค.โดยให้ Work Form Home ขั้นสูงสุด