'แรงงานกลับถิ่น' ทำยอดผู้ติดเชื้อในตจว.พุ่ง 'อีสาน' พบติดเชื้อจากนำเข้าเชื้อมากสุด

วันนี้ (30 ก.ค.2564)นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค.ได้รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ประจำวัน ว่าขณะนี้ผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่อีก 17,345  ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,656 ราย ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 681 ราย และผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 549,512 ราย มีผู้ป่วยหายแล้ว 10,678 ราย หายป่วยสะสม 353,744 ราย อีกทั้งยังมียอดผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง

โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 117 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 4,585 รายแล้ว ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 4,679 รายแล้ว   มีผู้ป่วยรักษาอยู่ในรพ. 192,526 ราย แบ่งเป็นในรพ. 74,232 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 118,294 ราย อาการหนัก 4,595 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,012 ราย

สำหรับจำนวนผู้รับวัคซีน ฉีดแล้วสะสม 17,011,477 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน  13,225,233 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 3,786,244 ราย ทั้งนี้ ทางปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพต่างๆ และได้สั่งการให้เขตตรวจราชการทั่วประเทศ เพิ่มจำนวนคนได้รับ ฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม7 โรคเรือรั้ง หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน

 

• พบเสียชีวิตในบ้าน 9 ราย 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ผู้ป่วยโควิด 19 เสียชีวิต  117 ราย มีดังนี้ กทม. 55  ราย สมุทรปราการ  9 ราย สมุทรสาคร 8 ราย นราธิวาส 7 ราย ปทุมธานี 6 ราย นครปฐม ปัตตานี จังหวัดละ 4 ราย กาฬสินธุ์  สุโขทัย นครสวรรค์ ตาก จังหวัดละ 2 ราย  สงขลา ตรัง ระนอง ร้อยเอ็ด นครพนม อุดรธานี สกลนคร กำแพงเพชร พิษณุโลก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย

ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน หลอดเลือดสมอง โรคปอด โรคหัวใจ  และไม่มีโรคประจำตัว ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ได้แก่ คนในครอบครัว คนอื่นๆ (ร่วมงาน  ผู้ดูแล) อาศัย/ไปพื้นที่ระบาด ไปที่แออัด  อาชีพเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์  และระบุได้ไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ วันนี้ พบว่ามีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 9 ราย กทม.8 ราย ปทุมธานี 1ราย  ส่วนค่ากลาง (วันที่ทราบผลติดเชื้อ-เสียชีวิต) 8 วัน (นานสุด 29 วัน) พบว่า ไม่เกิน 6 วัน 56 ราย (48%) ตั้งแต่ 7-14 วัน 41 ราย (35%) และมากกว่า 14 วัน 20 ราย (17%)

ตอนนี้ในส่วนของจำนวนผู้ป่วย-ผู้ติดเชื้อในชุมชนรายวันกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัดนั้น จะพบว่า ภาพจำนวนผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัด 71 จังหวัด จะมีแนวโน้มที่เริ่มสูงกว่าในกทม. ตั้งแต่มีมาตรการให้พี่น้องแรงงานกลับภูมิลำเนา โดย วันนี้ มีผู้ติดเชื้อ ใน 71 จังหวัด จำนวน 9,558 ราย หรือ 57% เริ่มสูงกว่าในกทม. และปริมณฑล ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 7,098 ราย หรือ 43%

• ผู้ติดเชื้อตจว.สูงขึ้น เหตุแรงงานกลับถิ่น

สำหรับจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศไทยรายใหม่ จำนวน 10 อันดับแรก ได้แก่ กทม.3,231ราย สมุทรปราการ 1,386 ราย สมุทรสาคร 1,186 ราย ชลบุรี 914 ราย นนทบุรี 587 ราย  ฉะเชิงเทรา 479 ราย อุบลราชธานี 350 ราย ปทุมธานี 330 ราย และสงขลา 324 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายเขต-จังหวัด จำแนกตามผู้ป่วยวันที่ 23-29 ก.ค.2564 พบว่า

ภาคกลางและภาคเหนือ บางจังหวัด จะมีภาพที่ใกล้เคียงกัน คือมีผู้ติดเชื้อในพื้นที่จำนวนมาก และบางพื้นที่มีการนำเข้าเชื้อจำนวนมาก เช่น เขต 2 จังหวัดตาก มีการติดเชื้อในพื้นที่ 2,584 ราย และมีการนำเข้าเชื้อมาในพื้นที่ 488 ราย ขณะที่สุโขทัย มีการติดเชื้อในพื้นที่น้อย 406 ราย แต่เป็นการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่ 1,037 ราย

ส่วนภาคอีสาน จะเห็นได้ว่า มีการนำเข้าเชื้อเข้ามากกว่าเป็นการติดเชื้อในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นร้อยเอ็ด มีการนำเข้าเชื้อมา 1,088 ราย มหาสารคาม 1,066 ราย เช่นเดียวกับ อุดรธานี มีการนำเข้าเชื้อมา 1,081 ราย  สกลนคร มีการนำเข้าเชื้อมา 654  ราย ซึ่งตรงนี้น่าจะสะท้อนให้เห็นมีการย้ายถิ่นแรงงานกลับไปภูมิลำเนาของตนเอง  เช่นเดียวกับเขต 9 นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ เป็นการนำเชื้อเข้ามาจำนวนมาก

ขณะที่ทางภาคใต้ นครศรีธรรมราช ระนอง สุราษฎร์ธานี  สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี ล้วนเป็นการติดเชื้อในพื้นที่จำนวนมากกว่าการนำเข้าเชื้อมา  เป็นภาพที่ได้เห็นปรากฎการณ์ที่สอดคล้องกับการระบาดในปัจจุบัน