'รพ.สนามธรรมศาสตร์ ' วัคซีนใกล้หมด เสียงอ้อนวอนขอก็ไปไม่ถึง

โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ สรุปการทำงานของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์รายวัน ซึ่งนับเป็นวันที่ 130 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ และวันที่ 69 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต ระบุข้อความว่า

วันนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 312 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,3515 คน แม้จะเบาใจลง กับตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ ที่ยังคงที่อยู่แถว
20,000+ ซึ่งแสดงว่า เราอยู่บนพีคจริงๆ แล้ว แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตก็ทำให้รู้สึกหดหู่ เมื่อต้องทำใจว่า ตัวเลข 2-300 คนนี้ คงจะต้องเป็นอย่างนี้ไปอีกสัก 1 หรือ 2 สัปดาห์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วันนี้ เรามีผู้ป่วยใหม่จากการตรวจ Swab อีก 32 ราย ในจำนวนนั้น เป็นบุคลากรของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์มากถึง 4 ราย ประกอบด้วย พยาบาล 2 และแพทย์ประจำบ้านอีก 1 การสอบสวนโรคพอจะบอกได้ว่า ไม่ได้ติดจากคนไข้ในวอร์ด อาจจะมาจากผู้ติดเชื้อภายนอก หรือมาจากครอบครัว อันที่จริง เราไม่มีบุคลากรของโรงพยาบาลติดเชื้อมาสามสี่วันแล้วนะ แต่การที่องค์กรของเรา ซึ่งมีบุคลากรเกือบ 4,000 คน จะมีผู้ติดเชื้อแต่ละวันอยู่บ้าง ก็คงเป็นตัวอย่างที่สะท้อนสภาพสังคมไทยในขณะนี้ ให้เห็นได้พอสมควรทีเดียวว่า คงไม่มีที่ใด หรือองค์กรใด ที่จะมีผู้คนที่รอดจากการติดเชื้อโควิดได้ ในสถานการณ์การระบาดรุนแรงเช่นนี้

ที่โรงพยาบาลสนาม 2 วันมานี้ เราส่งผู้ป่วยกลับบ้านได้มากถึง 80 กว่าคน และรับผู้ป่วยเข้ามาใหม่ได้เพียงประมาณ 40 คนเท่านั้น จึงทำให้จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม ลดลงค่อนข้างมาก จากจังหวะของการส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านได้ใน 2 วันมานี้ จำนวนรวมของผู้ป่วยโควิดคืนนี้ ที่อยู่กับเราคือ 301 คน แต่ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยสีเหลืองถึงส้ม ระดับที่ต้องให้ออกซิเจนช่วยหายใจ มากถึงกว่า 50 คนแล้ว

ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ที่ยิม 4 วันนี้ เรามีคิวนัดในจำนวนที่ต่ำเพียงพันเศษ แต่มีผู้มาฉีดวัคซีนในสัดส่วนที่สูงมากถึงกว่า 95% แต่จำนวนคนที่รับวัคซีนอยู่ที่ 1,031 คนเท่านั้น เรายังคงจะฉีดต่อไป วันละ 2 พันกว่าคน ตามคิวที่นัดไว้ได้ จนถึงวันที่ 22 สิงหาคมเท่านั้น จากนั้น วัคซีนที่เราไปเที่ยวขอหยิบยืมจากที่ต่าง ๆ มาฉีดให้ผู้คนที่รอคิวอยู่ต่อจากนี้ไป ก็จะหมดแล้วจริง ๆ เรามีคนรอคิวจองฉีดวัคซีน Astra อยู่กับเราที่นี่ ไปจนถึงเดือนตุลาคมแล้ว มากกว่า 200,000 คน เราพยายามที่จะส่งเสียงสอบถาม อ้อนวอน และร้องขอให้มีการแบ่งวัคซีน Astra ส่วนหนึ่ง มาให้คนที่รออยู่ที่นี่ด้วยบ้าง แต่ก็ไม่มีคำตอบอะไรจากใครเลยมาหลายสัปดาห์แล้ว จนพวกเราต้องไปเที่ยวหยิบยืมวัคซีนจากที่ต่าง ๆ มาฉีดให้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ต้องมีการปิดศูนย์รับวัคชีน โดยหวังว่า เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย และเป็นวัคซีนที่รัฐบาลประกาศให้เป็นวัคซีนหลักของชาติ จากจำนวนที่จองซื้อไว้ มากถึง 61,000,000 โดส จะมีมาให้ถึงประชาชนที่นี่บ้าง

วันนี้ เมื่อทราบข่าวอย่างเป็นทางการว่า ที่ประชุม ครม.ในการประชุมเมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) มีมติให้ประเทศไทยยืมวัคซีน Astra ของประเทศภูฏาน จำนวน 150,000 โดส ที่มีอายุการใช้ได้อีกไม่นานนัก มาใช้ฉีดในประเทศก่อน แล้วจะส่งคืนให้ภายหลัง ข่าวนี้ทำให้เราทราบสถานการณ์ว่า มีความขาดแคลนวัคซีนที่ผลิตได้เองในประเทศชนิดนี้อย่างร้ายแรง และรัฐบาลก็ได้ตัดสินใจ ว่าจะไม่ตัดสินใจ ในการใช้อำนาจ กำหนดสัดส่วนการส่งวัคซีนไปต่างประเทศของบริษัทผู้ผลิต โดยใช้อำนาจตามกฎหมายความมั่นคงทางวัคซีน ตามที่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเรียกร้องให้ทำแล้ว อย่างแน่นอน หมายความว่า 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ไป พวกเราไม่มีทางจะได้รับวัคซีน Astra มาเพิ่มเติมอีกเป็นอันขาด

เช้าวันนี้ ในการประชุมวอร์รูมของเรา เราจึงจำเป็นต้องตัดสินใจว่า จะต้องเลื่อนวันนัดฉีดวัคซีน Astra ในสัปดาห์หน้าออกไปก่อน โดยจะขอเลื่อนออกไป โดยมีกำหนดวันใหม่ที่ชัดเจน ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ผู้ที่มีคิวนัดฉีดวัคซีนที่ ยิม 4 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 ส.ค.เป็นต้นไป จนถึง 24, 25, 26 และ 27 สิงหาคม จะถูกเลื่อนวันนัดโดยอัตโนมัติ ไปเป็นที่ 4 ก.ย.ช่วงบ่าย สำหรับคิว 23 ส.ค. เช้า และสำหรับ 23 ส.ค.บ่าย ก็จะถูกเลื่อนไปเป็นอังคารที่ 5 ก.ย.บ่าย 24 ส.ค.เช้า ก็จะไปเป็น 6 ก.ย.บ่าย เลื่อนไปราว 2 อาทิตย์เช่นนี้ไปตามลำดับ โดยรายละเอียดของแต่ละวันที่เลื่อน เป็นไปตามตารางที่แจ้งไว้ด้านบนนี้แล้ว

สำหรับผู้ที่มีคิวนัด ตั้งแต่ 28 สิงหาคมเป็นต้นไป ขอให้ติดตามดูประกาศของโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง เพราะพวกเราเองก็ไม่รู้ และไม่เคยมีใครบอกเราว่า จะมีวัคซีนส่งมาให้เราได้เมื่อไหร่เหมือนกัน ทุกอย่างเกี่ยวกับวัคซีน เป็นไปตามยถากรรม และคนที่ยังไม่ได้ฉีดและรออยู่ ก็คงต้องรอไปเรื่อย ๆ ในสถานการณ์ที่ประเทศชาติของเรา บริหารจัดการวัคซีนกันอย่างที่เห็น และเป็นอยู่แบบนี้

พวกเราที่นี่ทุกคนเสียใจ พวกเราขอโทษ ที่ทำให้ผู้คนที่รอคอยต้องผิดหวัง พวกเรามีสติปัญญา และมีความสามารถทำได้เพียงเท่านี้เองจริง ๆ