วัคซีนโควิด-19 ปี 65 ฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มเดียว
“อนุทิน”ลั่นสิ้นต.ค.ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ 60 ล้านโดส มั่นใจกลุ่มเป้าหมายได้ฉีดครบในสิ้นปี 64 เผยเตรียมแผนรองรับปี 65 ฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มเดียว
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2564 ที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์การเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โควิด 19 หากมีการกลับมาติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นว่า ความพร้อมเตรียมไว้อยู่ตลอด เรื่องยา เวชภัณฑ์มีสำรองไว้ในระดับที่จะรองรับสถานการณ์ได้ แต่เชื่อว่าการระดมเร่งฉีดวัคซีนวันละ 7-8 แสนโดส สิ้นเดือนต.ค.น่าจะฉีดได้เกือบ 60 ล้านโดส โดยแผนที่กรมควบคุมโรครายงานล่าสุด มั่นใจว่ากลุ่มเป้าหมายน่าจะได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกโดสภายในสิ้นปีนี้
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มก็ต้องมารับเข็ม 3 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า ถ้าจะเสริมสร้างความปลอดภัยให้ตนเอง ซึ่งเริ่มทยอยให้บริการแล้ว แต่จะเริ่มจริงๆ คือ วันที่ 24 ก.ย. จำนวนวัคซีนสำหรับปีนี้คิดว่ามีความเพียงพอแล้ว ประสิทธิภาพการฉีดก็เพียงพอ จำนวนวัคซีนก็เพียงพอ
และมีการจัดหาวัคซีนบูสเตอร์โดสสำหรับประชาชนในประเทศไทยได้ค่อนข้างที่จะครบถ้วนแล้วในปีหน้า ซึ่งฉีดเข็มเดียว แต่ต้องดูประสิทธิผลว่าเข็มเดียวต้องเติมในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่ ถ้าเติมก็มีการเปิดออปชั่นกับบริษัทผู้ผลิตว่าเราสามารถที่จะเพิ่มจำนวนการสั่งซื้อวัคซีนได้ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้โดยที่ราคาและเงื่อนไขไม่เปลี่ยน ต้องให้เซ็นสัญญาให้เรียบร้อยก่อน ส่วนที่เปิดเผยได้ก็พร้อมเปิดเผยให้ทุกฝ่ายรับทราบ
ถามว่าวัคซีนสำหรับปีหน้าเตรียมไว้กี่โดส นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ให้จัดหาประมาณ 100 กว่าล้านโดส แต่ต้องดูสถานการณ์ด้วย ถ้าเข็มบูสเตอร์เวิร์กได้จริงๆ ประเทศไทยมีประชาการ 70 ล้านคน ต้องดูสถานการณ์ทุกอย่างประกอบกัน ถ้าเกิดไม่จำเป็นต้องใช้ถึงขนาดนั้น และหวังว่าปีหน้าการผลิตวัคซีนน่าจะมีทางเลือกมากขึ้น ราคาก็น่าจะลดลง การมาถึงของวัคซีนไม่น่าจะวุ่นวายเหมือนปีนี้
“สถานการณ์เมื่อไม่มีคนเจ็บ คนตาย คนติดมาก สถานการณ์ทุกอย่างก็จะทำให้เกิดความลงตัวในทุกมิติ ไม่ใช่ว่าซื้อตอนนี้ก่อน แล้วปีหน้าเหลือเท่าไหร่แล้วเอาไปบริจาค ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น เอาให้เพียงพอกับความจำเป็นที่ต้องนำมาใช้”นายอนุทินกล่าว
กรณีนักวิชาการระบุว่าถ้าเปิดประเทศและมีการระบาดซ้ำต้องหาคนรับผิดชอบ นายอนุทินกล่าวว่า ก็จะมีการดูแลรักษาเต็มที่ ทุกคนก็ทำสุดความสามารถ ตอนกลัวไม่มีวัคซีน ไม่มียา ไม่มี รพ.รองรับ ก็มีแล้วทั้งหมด ทุกคนก็ต้องทำตามคำแนะนำ แม้รับวัคซีนแล้วก็ต้องป้องกันตนเอง เมื่อวัคซีนทำงานอย่างเต็มที่ ก็อาจมีคนติดเชื้อแต่จะไม่มีการเจ็บหนักหรือตาย ถ้าติดเชื้อก็รักษา ซึ่งบอกไม่ได้ว่าวัคซีนป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ แต่บอกได้ว่าติดเชื้อแล้วอาการไม่หนักและเสียชีวิต สุดท้ายจะลดความรุนแรงจากโรคระบาดใหญ่(Pandemic) มาเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) เหมือนโรคอื่นๆ ทั่วไป
"วันนี้มีคนติดเชื้อป่วยไข้หวัดใหญ่ไหม ทำไมไม่เป็นอะไร เพราะรับวัคซีน หวังว่าในกรณีโควิดก็เหมือนกัน เมื่อวัคซีนกระจายทั่วถึงแล้ว ไม่ต้องคิดถึงภูมิคุ้มกันหมู่ คิดแค่ว่าไปถึงแล้วรับกันถ้วนหน้าแล้วมีความปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต ถ้าส่วนใหญ่รักษากันตามอาการ ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอาการ" นายอนุทินกล่าว