ล่าสุด!มาตรการ "คลายล็อกดาวน์"พื้นที่สีแดงเข้ม 23 จังหวัดก่อนเริ่ม 16 ต.ค.
ศบค.อัพเดท "มาตรการคลายล็อกดาวน์" ล่าสุด ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 23 จังหวัด อะไรทำได้ อะไรไม่อนุญาต พร้อมเช็ครายละเอียดทุกพื้นที่ เริ่ม 16 ต.ค.นี้
วันนี้ (15 ต.ค. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. สรุปรายงานการปรับพื้นที่สถานการณ์และปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ว่า จากอัตราการติดเชื้อในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 3 ส.ค. 64 มีพื้นที่สีแดงเข้ม จาก 29 จังหวัด จะมีการปรับลงมาเหลือ 23 จังหวัด โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ต.ค. นี้ พื้นที่ควบคุมสีแดง จาก 37 จังหวัด เหลือ 30 จังหวัด สีส้ม พื้นที่ควบคุม จาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด ส่วนพื้นที่สีเหลือง และ สีเขียวยังไม่มี
อย่างไรก็ตาม บางจังหวัดมีการติดเชื้อในลักษณะอำเภอ เช่น จังหวัดตาก จ.นครราชสีมา มีการติดเชื้อใน อ.เมือง อ.ปากช่อง ซึ่งต้องกำหนดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถปรับเป็นพื้นที่สีแดงเข้มกว่าที่ศบค.ประกาศได้ แต่ไม่สามารถปรับลดพื้นที่ได้ และขอให้การปรับดังกล่างส่งรายละเอียดมาให้ทางศบค.ร่วมด้วย ราชการจังหวัด ปรับให้เข้มกว่าที่ศบค.ประกาศได้ และการปรับขอให้ทางจังหวัดพิจารณาและส่งมาศบค.
- อัพเดทมาตรการพื้นที่สีแดงเข้ม 23 จังหวัด
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการปรับมาตรการพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.2564) สรุปได้ดังนี้
- ห้ามออกนอกเคหะสถาน เวลา 23.00 – 03.00 น. เพื่อให้ผู้ประกอบการณ์โต้รุ่ง ตลาดเช้า ให้กลับมาสู่วิถีชีวิตเดิม
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด ขยับไปเปิดให้บริการได้ถึง 22.00 น. เปิดบริการเครื่องเล่น สวนสนุกได้ แต่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด / กทม.
- ธุรกิจที่กำหนดเวลา เช่น โรงหนัง ร้านอาหาร โรงละคร โรคมหรสพ (ลิเก งิ้ว ลำตัด หรือการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ) สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สามารถเปิดได้ถึง 22.00 น. แต่เน้นย้ำเรื่องการป้องกันโรค
- สถานดูแลผู้สุงอายุ แต่เดิมให้เฉพาะผู้อยู่ประจำ เปลี่ยนเป็น รับผู้ที่เดินทางไปกลับได้ แต่ต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดด้วย บุคลากรได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ และมีการสุ่มตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ผู้ให้บริการต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
- ระบบขนส่งสาธารณะ ปรับเพิ่มความจุได้ ตามความสามารถของยานพาหนะก.คค.กำหนด
- แนวปฎิบัติในศูนย์ประชุม ห้าง โรงแรม
ขณะที่ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดประชุมนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม
- เปิดบริการจัดประชุม จัดตามประเพณีนิยมได้ โดยจำนวนจำกัดไม่เกิน 500 คน
- เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร
- จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- กำหนดเวลาประชุม ไม่เกินช่วงละ 2 ชั่วโมง ให้มีเวลาพัก และเปิดระบายอากาศของห้องประชุม
- เปิดดำเนินการเวลาปกติ ไม่เกิน 22.00 น.
- ให้ขออนุญาตแต่ต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด / กทม. กรณีที่จัดงานเกิน 50 คน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องมีการตรวจสอบ และปรับปรุง ระบบหมุนเวียนอากาศ รวมทั้งการจัดสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการ COVID Free Setting ก่อนเปิดทำการ
- มาตรการอะไรบ้าง? ที่ไม่อนุญาต
นอกจากนี้ การปรับมาตรการ กิจการกิจกรรมในทุกพื้นที่ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอล เครื่องเล่น ตู้เกม เปิดได้แล้ว แข่งรายบุคคล หรือเป็นคู่เท่านั้น ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังไม่อนุญาตให้เปิด สวนน้ำ สวนสนุก ทุกพื้นที่ยังไม่เปิด ขณะที่ สนามกีฬาเปิดได้ ขยายเวลา 22.00 น. เรื่องของการจัดกิจการรวมกลุ่ม ขยายจำนวนคนได้ ตามระดับของพื้นที่ แต่ต้องยึดหลักการป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล
สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่ให้เปิด ยังต้องขอให้มีการเตรียมการไว้ก่อน พื้นที่สะอาด โปร่งโล่ง ทำมาตรการภายในเตรียมไว้ ในเดือนถัดๆ ไปจะมีการเร่งรัดมาตรการให้มีการเปิดดำเนินการเช่นกัน แต่ ณ ตอนนี้ความเสี่ยงสูง ขอให้เป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงภายในกิจการของท่านเองด้วย