ไทยฉีด "วัคซีนโควิด-19" สะสม 68.5 ล้านโดส 13 จ. ฉีดเกิน 50%
ศบค. รายงานสถานการณ์ฉีด "วัคซีนโควิด-19" ในประเทศไทย 21 ต.ค. 64 ฉีดสะสม 68.5 ล้านโดส โดย 13 จังหวัด ฉีดครอบคลุมประชากร 50% ขณะที่ 15 จังหวัดนำร่อง ฉีดครอบคลุม 50% แล้ว 11 จังหวัด "ภาคใต้" ยังระบาด 5 จังหวัดติดเชื้อรายวันสูงสุด
วันนี้ (21 ต.ค. 64) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงาน สถานการณ์การฉีด “วัคซีนโควิด-19” จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 20 ต.ค. 2564) รวม 68,503,058 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 39,039,849 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 27,405,800 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 2,057,409 ราย
- ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 20 ตุลาคม 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 915,956 โดส
เข็มที่ 1 : 428,656 ราย
เข็มที่ 2 : 446,015 ราย
เข็มที่ 3 : 41,285 ราย
- 13 จังหวัด ฉีดวัคซีนเกิน 50%
ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีน จำแนกตามจังหวัด และการได้รับวัคซีน ตามเป้าหมาย ผลการดำเนินงานถึงวันที่ 19 ต.ค. 64 พบว่า จังหวัดที่มีความครอบคลุมประชากรมากกว่า 50% มีทั้งหมด 24 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี ยะลา สงขลา พังงา ภูเก็ต ระนอง บุรีรัมย์ กระบี่ ตรัง
- 11 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว ฉีดเกิน 50%
สำหรับ "พื้นที่นำร่อง" ท่องเที่ยว 15 จังหวัด ขณะนี้ มีการฉีดครอบคลุม 50% ทั้งหมด 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ กระบี่ พังงา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ระนอง เชียงใหม่ ระยอง ตราด ขณะที่จังหวัดที่ฉีดครอบคลุมกลุ่มสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กว่า 70% ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ พังงา ชลบุรี ระนอง
- ติดเชื้อรายใหม่ 9,727 ราย
สำหรับ "สถานการณ์โควิด-19" พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 9,727 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 1,821,579 ผลตรวจ ATK เป็นบวก 2,059 ราย ยอดผลบวกสะสม 176,086 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 73 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 18,465 รายแล้ว
ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจาก สถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 18,559 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 103,086 ราย กลุ่มคนไข้อาการหนัก 2,687 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 603 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 10,075 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,672,508 ราย
- "ภาคใต้" เสียชีวิต 22 ราย
รายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่จำนวน 73 ราย พบว่าเป็นชาย 41 ราย หญิง 32 ราย เป็นชาวไทย 72 ราย จีน 1 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 47 ราย คิดเป็น 64% และ ผู้มีโรคเรื้อรัง 22 ราย 30% รวมทั้งสองกลุ่ม 94% นอกจากนี้ ในภาคใต้ยังพบการเสียชีวิตสูง รวมกว่า 22 ราย
- ภาคใต้ ติดเชื้อ 23% ของภาพรวมประเทศ
สำหรับภาพรวมการติดเชื้อทั้งประเทศ 21 ต.ค. 64 พบว่า ชายแดนใต้ 4 จังหวัด สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ติดเชื้อเป็นสัดส่วน 23% ขณะที่ กทม.ปริมณฑล ลดลงอยู่ที่ 17% ต่างจังหวัด 67 จังหวัด สัดส่วน 60%
- 5 จังหวัดภาคใต้ ติดเชื้อรายวันสูง
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทสไทย รายวัน พบว่า อันดับ 1 ยังคงเป็นกทม. 1,010 ราย ขณะที่ในภาคใต้ พบ 5 จังหวัดติด Top 10 ติดเชื้อสูง ได้แก่ ยะลา นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ขณะที่ "เชียงใหม่" ซึ่งจากการรายงานวานนี้ พบมีการระบาดหลายคลัสเตอร์ ในวันนี้ อยู่อันดับที่ 8 ติดเชื้อ 375 ราย
- ทั่วโลกติดเชื้อรวม 242 ล้านราย
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อรวม 242,793,711 ราย
อาการรุนแรง 77,097 ราย
รักษาหายแล้ว 220,075,338 ราย
เสียชีวิต 4,937,510 ราย
- อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 46,089,415 ราย
2. อินเดีย จำนวน 34,126,682 ราย
3. บราซิล จำนวน 21,680,489 ราย
4. สหราชอาณาจักร จำนวน 8,589,737 ราย
5. รัสเซีย จำนวน 8,094,825 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 1,821,579 ราย
- สหรัฐอเมริกา เตรียมฉีด "ไฟเซอร์" เด็ก 5-11 ปี
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ รายงาน ว่า สหรัฐอเมริกา เตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด จากบริษัท Pfizer ให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี ใน พ.ย. 64 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งพิจารณาผลดีและผลเสียเพื่อรับรองความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนให้แก่เด็ก จากนั้นสำนักงานป้องกันและควบคุมโรค (Centers for Disease Control and Prevention-CDC) ของสหรัฐฯ จะหารือขั้นสุดท้ายระหว่าง 2-3 พ.ย. 64 แล้วจึงอนุมัติแจกจ่ายวัคซีนรวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปยังศูนย์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศ และเร่งฉีดแก่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ จะสนับสนุนงบประมาณแก่ศูนย์ฉีดวัคซีน เพื่อเร่งฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเป้าหมายกว่า 28,000,000 คน ผ่าน สนง.จัดการภาวะฉุกเฉิน (Federal Emergency Management Agency-FEMA) ของสหรัฐฯ
- รัสเซีย ประกาศวันหยุด คุมโควิด
รัสเซีย ประกาศวันหยุดเพื่อยับยั้งโควิดระลอกใหม่แพร่ระบาด ตั้งแต่ 20 ต.ค.-7 พ.ย. 64 โดยให้ประชาชนงดออกไปทำงาน แต่ยังคงได้รับค่าจ้างตามปกติ ขณะเดียวกันยังระบุว่า จนท.ระดับสูงของรัฐบาลรัสเซียจำเป็นต้องดำเนินมาตรการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งองค์กรภาคประชาสังคมที่ไม่หวังผลกำไร ให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจรัสเซียได้อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากโควิดและมาตรการข้างต้นส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคส่วนเหล่านี้ นอกจากนี้ ยังให้อำนาจผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองต่าง ๆ สามารถขยายมาตรการดังกล่าวได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ มาตรการข้างต้นมีขึ้นเพื่อยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในรัสเซียมิให้ขยายตัวยิ่งขึ้น และเป็นไปตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีรัสเซีย กับทั้งสอดคล้องกับทัศนะของประธานาธิบดีรัสเซียที่เห็นว่า ภารกิจสำคัญสูงสุดของรัฐบาลรัสเซียในปัจจุบันคือยับยั้งการแพร่ระบาดรุนแรงอีกระลอก