บังคับฉีดวัคซีนทำชาวมะกันตกงานหลายพัน
เว็บไซต์ข่าวอัลจาซีราห์ รายงานว่า กระแสต่อต้านไม่ฉีดวัคซีนในสหรัฐ กำลังทำให้แรงงานในระบบต้องตกงานโดยไม่ทันตั้งตัวหลายพันตำแหน่ง และขณะนี้เมืองต่างๆในหลายรัฐ รวมทั้งบริษัทเอกชนจำนวนมากเริ่มหันมาปฏิบัติตามข้อบังคับของรัฐบาล
กรณีล่าสุด ที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วสหรัฐคือกรณีของมหาวิทยาลัยรัฐวอชิงตัน(ดับเบิลยูเอสยู)ที่ไล่หัวหน้าโค้ชทีมฟุตบอลและผู้ช่วยอีก4คนของเขาออกเมื่อวันจันทร์(18ต.ค.)หลังจากคนกลุ่มนี้ปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามข้อกำหนดของรัฐบาลกลาง โดย“นิค โรโววิช”ซึ่งเป็นโค้ชทีมฟุตบอล ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอยกเว้นการฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลด้านศาสนาตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานดับเพลิงหลายพันคนในเมืองต่างๆอย่าง ชิคาโกและบัลติมอร์ก็อยู่ในฐานะเสี่ยงที่จะตกงานในไม่กี่วันนี้เช่นกันหากไม่รายงานเกี่ยวกับสถานะภาพการฉีดวัคซีนให้ทางการทราบ หรือยื่นเอกสารเพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสต้นตอโรคโควิด-19
ด้าน Worldometer เเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุวานนี้ (20 ต.ค.)ว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 45,917,384 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 746,584 ราย และขณะนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
รัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 4 ล้านราย ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ส่วนรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 3 ล้านราย ได้แก่ ฟลอริดาและรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ นิวยอร์ก
รัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ อิลลินอยส์ จอร์เจีย เพนซิลเวเนีย โอไฮโอ นอร์ทแคโรไลนา เทนเนสซี มิชิแกน นิวเจอร์ซีย์ แอริโซนา อินเดียนา และรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 71,013 ราย
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนในประเทศไปแล้วทั้งสิ้น 409,438,987 โดส นับจนถึงวันอังคาร(19 ต.ค.) และกระจายวัคซีนออกไปแล้ว 495,844,635 โดส
ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากที่ฉีดไป 408,797,942 โดสเมื่อวันที่ 18 ต.ค. จากที่กระจายวัคซีนออกไป 494,655,075 โดส
ซีดีซี ระบุว่า มีประชากร 219,161,368 คนได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่ 189,487,793 คนได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
ยอดรวมวัคซีนดังกล่าวนับรวมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบ 2 โดสของโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทค รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบ 1 โดสของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ทั้งนี้ ประชากรมากกว่า 10.9 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือวัคซีนของโมเดอร์นาโดสที่ 3 แล้วตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. เมื่อสหรัฐอนุญาตให้ฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ให้แก่ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าการฉีดวัคซีนเพียง 2 โดสอาจสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่เพียงพอ
บริษัทอเมริกันหลายแห่งรวมถึงโบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ออกข้อกำหนดให้พนักงานของบริษัทในสหรัฐ ที่มีจำนวน 125,000 คน ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดให้บริษัทผู้รับเหมาของรัฐบาลกลางต้องฉีดวัคซีนโควิด-19
“โบอิงออกข้อกำหนดให้พนักงานในสหรัฐต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ มิฉะนั้นต้องแสดงเหตุผลอันควรแก่การผ่อนปรน เช่นเหตุผลด้านทุพพลภาพ หรือความเชื่อทางศาสนา” โบอิง กล่าว
สหภาพพนักงานวิศวกรรมด้านการบินและอวกาศ (เอสพีอีอีเอ) เปิดเผยว่า “สหภาพฯ กำลังพูดคุยกับนายจ้างเพื่อให้แน่ใจว่านายจ้างจะบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวโดยพิจารณาถึงข้อกังวลของสมาชิกตามความเหมาะสม เช่นปัญหาด้านสุขภาพ และเป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาของเราที่ได้เจรจากัน”
ขณะที่สายการบินรายใหญ่ๆของสหรัฐ ยืนยันว่า จะปฏิบัติตามเส้นตายที่กำหนดไว้สำหรับผู้รับเหมาของรัฐบาลกลาง โดยสายการบินรายใหญ่ที่ว่า รวมถึงสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์, เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์, เจ็ทบลู แอร์เวย์ และอลาสก้า แอร์ไลน์ รวมทั้ง สปิริต แอโรซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐ ประกาศจ่ายเงินพิเศษให้พนักงาน หากพนักงานลางานไปฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือหากพนักงานเกิดอาการเจ็บป่วย หรือแพ้วัคซีน ก็สามารถลางานได้ โดยบริษัทยังคงจ่ายเงินเดือนให้ตามปกติ ไม่มีการหักเงินเดือนแต่อย่างใด