เปิดปฏิทิน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" พฤศจิกายน 2564 เงินเข้าวันไหนบ้าง
เช็คที่นี่! เปิดปฏิทิน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" เดือนพฤศจิกายน 2564 แบ่งโอนเงินเดือนละ 3 ครั้ง ไปดูว่าเข้าวันไหนและสำหรับใช้จ่ายอะไรบ้าง
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2564 เห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 โดยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 ได้เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เพิ่มเติมอีกจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ย. - ธ.ค. 2564 นั้น
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ได้รวบรวมข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง เกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือน พ.ย. 2564 ดังนี้
- ทุกวันที่ 1 ของเดือน
เงินส่วนนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป โดยสามารถนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
1. วงเงินซื้อสินค้า 700/800 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาท)
2. ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน
3. ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
3.1 ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
3.2 ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
3.3 ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
- ทุกวันที่ 18 ของเดือน
เงินส่วนนี้สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้ โดยสามารถนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
1. เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
2. เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
- ทุกวันที่ 22 ของเดือน
เงินส่วนนี้สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้ โดยสามารถนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
1. เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
กรมบัญชีกลางระบุว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้แก่กลุ่มที่มีรายได้น้อย
นอกจากนี้ยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 จากการเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการมากขึ้น