กรมวิทย์เผยห้องแล็ปตรวจโควิด-19ได้กว่า 1 แสนตัวอย่างต่อวัน
กรมวิทย์ฯ เพิ่มศักยภาพห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อโรคโควิด-19 หนุนการเปิดประเทศปลอดภัย 1 จังหวัด 1 แล็บ และรายงานผลใน 24 ชั่วโมง จนปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการเครือข่าย 443 แห่ง ทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด ทำให้ประเทศไทยสามารถตรวจไม่น้อยกว่า 120,000 ตัวอย่างต่อวัน
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศรับผู้เดินทางและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งผ่อนคลายให้เปิดกิจการและสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้นในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพสร้างรายได้ นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ดำเนินมาตรการให้การเปิดประเทศเป็นไปด้วยความปลอดภัย
ในส่วน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีแผนปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการเปิดประเทศ ด้วยการเพิ่มจำนวนและศักยภาพห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี real-time RT-PCR โดยได้ขยายการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการตามนโยบาย 1 จังหวัด 1 แล็บ และรายงานผลใน 24 ชั่วโมงจนปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการเครือข่าย 443 แห่ง ทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด ทำให้ประเทศไทยสามารถตรวจไม่น้อยกว่า 120,000 ตัวอย่างต่อวัน
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ กำหนดให้ชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศ ต้องมีผลตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธี real-time RT-PCR ก่อนเดินทางเข้ามาไม่เกิน 72 ชั่วโมง และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยจะมีการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี real-time RT-PCR และพักรอผลตรวจ 1 คืน หากผลเป็นลบสามารถเดินทางไปยังจุดหมายการท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ และขณะพำนักในประเทศไทยต้องตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ด้วยชุดตรวจ ATK เมื่อมีอาการ หรือตรวจซ้ำในวันที่ 6-7 ถ้าพบว่าผลตรวจเป็นบวกจะถูกนำเข้าสู่ระบบดูแลรักษาและควบคุมโรคต่อไป
สำหรับประเด็นราคาค่าตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี real-time RT-PCR ที่มีการสอบถามเข้ามาที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าราคาลดลงจริงหรือไม่นั้น นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการปรับราคาค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการจากเดิม 2,300 บาท (ค่าตรวจ 1,600 บาท ค่าดำเนินการ 700 บาท) ลดค่าตรวจลงเหลือ 1,300 บาท และลดค่าดำเนินการเหลือ 100-300 บาท แล้วแต่กรณี และในอนาคตกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะพิจารณาหาแนวทางว่าจะสามารถลดราคาค่าตรวจให้ต่ำลงกว่านี้อีกได้หรือไม่ เพื่อจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน