กทม.จัดใหญ่ "ลอยกระทง" คลองโอ่งอ่าง เช็คมาตรการตรวจเข้มก่อนเข้างานถึง 21 พ.ย.นี้
กทม.จัดใหญ่เที่ยว "ลอยกระทง" คลองโอ่งอ่าง ยึดมาตรการ "นิวนอร์มอล" ย้ำโชว์ผลฉีดวัคซีน 2 เข็ม-ผลตรวจ ATK ก่อนเข้างานได้
วันที่ 19 พ.ย. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานพิธีเปิดงานลอยกระทงกรุงเทพมหานครประจำปี 2564 ที่บริเวณคลองโอ่งอ่าง เขตสัมพันธวงศ์และเขตพระนคร ซึ่ง กทม.จัดขึ้นเพื่อสืบสานประเพณีวิถีไทยและวิถีชีวิตของชุมชนที่มีต่อสายน้ำ โดยยึดหลัก COVID-Free Setting (มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร) และ Universal Prevention (การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล) อย่างเคร่งครัด
สำหรับในปีนี้ ได้รับเกียรติจากสถานเอกอัครราชทูต 9 ประเทศ เข้าร่วมงานฯ ประกอบด้วย สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยและสถานเอกอัครราชทูตบรูไนดารุสซาลามประจำประเทศไทย
ทั้งนี้ คณะทูตานุทูต พร้อมคณะผู้บริหาร กทม. ได้เดินชมบรรยากาศ ที่สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา พร้อมลงเรือล่องไปตามคลองโอ่งอ่างขึ้นท่าเรือฝั่งสะพานภาณุพันธ์ เพื่อชมการแสดงในพิธีเปิด โดยผู้ว่าฯกทม.ได้มอบของที่ระลึกให้แก่คณะทูตานุทูตและถ่ายภาพร่วมกันด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.เป็นเมืองที่มีความผูกพันกับสายน้ำและลำคลองมาแต่โบราณ โดยในอดีต เราใช้คลองที่ไหลผ่านพื้นที่ต่างๆเป็นเส้นทางในการสัญจรและค้าขายจนเป็นที่รู้จักในนาม "เวนิสตะวันออก" ซึ่งคลองโอ่งอ่างเป็นหนึ่งในคลองสำคัญที่ดำรงอยู่คู่กรุงเทพมหานครมายาวนานถึง 238 ปี นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่ 1 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ขุดคลองคูเมืองเดิม เพื่อเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนเหนือและตอนใต้ในปีพ.ศ.2326 นอกจากนั้นยังเคยเป็นแหล่งค้าขายเครื่องดินผาของชาวมอญและชาวจีนที่มีความสำคัญของสยามอีกด้วย
สำหรับการจัดงานลอยกระทงคลองโอ่งอ่าง "รื่นเริง รัตนโกสินทร์ ลอยกระทงวิถี New Normal" นอกจากจะเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันละเอียดอ่อนงดงามตามแบบไทย และเป็นโอกาสอันดีในการอวดโฉมย่านเก่าแก่ของเมืองที่มีความสวยงามร่วมสมัยแล้ว ยังเป็นการแสดงออกให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเห็นถึงความพร้อมของกรุงเทพมหานคร ในการกลับมาเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ยังคงความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ และปลอดภัย หลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด อีกด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ กทม.กำหนดจัดงานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร 2 จุดใหญ่ ที่คลองโอ่งอ่าง และที่สะพานพระราม 8 รวมทั้งเปิดสวนสาธารณะทั้ง 31 แห่งให้ประชาชนได้ลอยกระทง สำหรับประชาชนที่สนใจมาร่วมงานเป็นจำนวนมากนั้นได้เตรียมพร้อมมาตรการเพื่อป้องกันความปลอดภัยโดยจำกัดความหนาแน่นของจำนวนผู้ร่วมหากมีผู้ร่วมงานเต็มพื้นที่ คนที่จะเข้ามาต้องรอด้านนอกนอกก่อน ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคน รวมถึงการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงานด้วยประชาชนได้ปฏิบัติตามมาตรการเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ กทม.ยังได้รับเกียรติจากคณะทูตานุทูต ผู้แทนประเทศอาเซียนและเอเชีย 9 ประเทศ มาร่วมงานลอยกระทงกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี สอดคล้องกับนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้เปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง
ในส่วนของภาพรวมการจัดงานลอยกระทงปีนี้ พบว่าประชาชนให้ความสนใจรวมงานทั้งที่คลองโอ่งอ่างและที่สะพานพระราม 8 เป็นจำนวนมาก และทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ ซึ่ง กทม.ได้จัดเตรียมไว้ ทั้งการคัดกรองเบื้องต้น และการรอคอยการเข้าพื้นที่เพื่อไม่ให้หนาแน่นเกินไป ซึ่งได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ตรงจุดทางเข้า-ออก และบริเวณงานให้ประชาชนได้รับทราบมาตรการที่กทม.กำหนดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามการจัดงานลอยกระทง ที่คลองโอ่งอ่างกำหนดจัดขึ้น 3 วัน ดังนั้นประชาชนยังคงมีเวลามาเที่ยวชมงานได้อีก จึงขอเชิญชวนประชาชนมารวมงานได้ถึงวันที่ 21 พ.ย.นี้ สำหรับการจัดเก็บกระทง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการระบายน้ำ และ50 สำนักงานเขตจะเร่งดำเนินการเก็บกระทงในคู คลอง และแม่น้ำเจ้าพระยาให้แล้วเสร็จในเวลา 05.00 น. ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดเก็บได้ตามกำหนดเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ใช้กระทงที่ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายง่าย และใช้การลอยกระทงแบบ 1 กระทง 1 ครอบครัว
สำหรับการจัดงาน ลอยกระทงคลองโอ่งอ่าง กำหนดจัดขึ้นบริเวณริมคลองโอ่งอ่างช่วงสะพานหัน เขตสัมพันธวงศ์และเขตพระนครระหว่างวันที่ 19 – 21 ต.ค. 2564 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป พื้นที่การจัดงานเริ่มตั้งแต่ช่วงสะพานดำรงสถิต สะพานภาณุพันธ์สะพานหัน สะพานบพิตรภิมุข สะพานโอสถานนท์ จนถึงสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา โดยเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้ชมแม่น้ำเจ้าพระยาในค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงที่สวยที่สุด และได้ขยายถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ตั้งแต่แยกถนนราชวงศ์ แยกวัดตึกไปถึงสะพานภาณุพันธ์ภายในงานมีกิจกรรมการแสดงมากมาย อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรีไทย และดนตรีร่วมสมัย การแสดงมินิคอนเสิร์ตจาก วง Wonder Frame และดื่มด่ำกับบรรยากาศ ถนนคนเดินริมคลองโอ่งอ่าง Street Art , Street Performance, ดนตรีเปิดหมวก และอีกมากมาย
การจัดงานในปีนี้ ยึดหลัก D – M – H – T – A ตามมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา(COVID-19) อย่างเคร่งครัด ได้แก่ D (Distancing) จัดให้มีการทำสัญลักษณ์เพื่อเว้นระยะห่างบริเวณพื้นที่ที่จัดให้ลอยกระทง หรือจัดให้เข้าแถวให้เป็นระเบียบ เพื่อลดความแออัด M (Mask wearing) กำหนดให้ผู้บริการ ผู้ค้า ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H (Hand washing) จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือบริเวณต่าง ๆ เพื่อบริการประชาชนภายในบริเวณงานอย่างทั่วถึง T (Testing) จัดให้มีจุดคัดกรองผู้เข้าร่วมงานอย่างเข้มงวดด้วยเครื่องสแกนแบบวัดความร้อนในร่างกาย ผู้ค้าได้รับวัคซีนครบ 2 โดส หรือมีผลตรวจ ATK เป็นลบ และ A (Application) จัดให้มีการสแกน QR Code ลงทะเบียนไทยชนะก่อนเข้าบริเวณงาน
สำหรับผู้ที่มาร่วมงาน จะต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน 2 เข็ม หรือผลตรวจ ATK ภายใน 72 ชั่วโมงที่มีผลเป็นลบมาแสดงก่อนเข้างานจากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจวัดอุณหภูมิ หากอุณหภูมิปกติก็สามารถเข้าร่วมงานได้ แต่หากอุณหภูมิสูงจะมีจุดที่จัดเตรียมไว้ให้นั่งพักแล้ววัดอุณหภูมิใหม่ หากอุณหภูมิปกติก็เข้าร่วมงานได้ หากอุณหภูมิไม่ลดและมีความเสี่ยงจะมีการตรวจ ATK ก่อน หากผลตรวจเป็นลบสามารถเข้าร่วมงานได้
กรณีพบผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวกในบริเวณงานจะมีเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมสำหรับการนำส่งผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาต่อไป นอกจากนี้ในการจัดงานจะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานแต่ละจุดอยู่ที่ 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร มีการนับจำนวนคนเข้างานไม่ให้เกินจำนวนที่กำหนด หากมีคนออกเท่าไหร่ก็ให้คนเข้าร่วมงานใหม่เพิ่มเท่านั้น ซึ่งในบริเวณงานมีร้านค้าจำหน่ายอาหารและสินค้าต่าง ๆ แต่ไม่อนุญาตให้มีร้านนั่งกิน ให้เป็นการซื้อกลับเท่านั้น