ศบค. เผย 10 จังหวัด ฉีด "วัคซีนโควิด-19" เข็ม 1 และ กลุ่ม 608 ยังต่ำ
ศบค. ขอความร่วมมือเร่ง ฉีด "วัคซีนโควิด-19" 10 จังหวัด ที่อัตราฉีดเข็ม1 และ กลุ่ม 608 ยังต่ำ เผยภาพรวมประเทศผลตรวจ RT-PCR เป็นบวกเฉลี่ย 10% ATK เฉลี่ย 3-4% ขณะเดียวกัน ยังพบ "คลัสเตอร์" งานบุญ งานศพ แคมป์ โรงงาน ฯลฯ ระบาดต่อเนื่อง
วันนี้ (22 พ.ย. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวถึง รายงานการฉีด "วัคซีนโควิด-19" จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 21 พ.ย. 2564) รวม 88,989,235 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 46,718,014 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 39,202,716 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 3,068,505 ราย
- ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 185,639 โดส แบ่งเป็น
เข็มที่ 1 : 71,076 ราย
เข็มที่ 2 : 101,076 ราย
เข็มที่ 3 : 13,487 ราย
- 10 จังหวัด ฉีดวัคซีนต่ำสุด
สำหรับ 10 จังหวัด ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำสุด ได้แก่
- นครพนม
- หนองบัวลำภู
- สกลนคร
- บึงกาฬ
- กาฬสินธุ์
- ยโสธร
- แม่ฮ่องสอน
- สุรินทร์
- ร้อยเอ็ด
- สมุทรสงคราม
ในส่วนของกลุ่ม 608 ได้แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และ หญิงตั้งครรภ์ มีอัตราการฉีดต่ำสุด 10 จังหวัด ได้แก่
- แม่ฮ่องสอน
- นครนายก
- ราชบุรี
- สุพรรณบุรี
- ปัตตานี
- ขอนแก่น
- กาญจนบุรี
- ลพบุรี
- สระบุรี
- อ่างทอง
"ขอเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชน แม้ในพื้นที่อัตราการติดเชื้อไม่มาก แต่หากมีเกิดการติดเชื้อ หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง และ ต้องขอบคุณภาคเอกชนหลายหน่วยงานพยายามช่วยกันรณรงค์ ภาครัฐ หรือ กระทรวงสาธารณสุข ลำพังคงทำไม่ได้ มีการพยายามรณรงค์ ให้พี่น้องประชาชนฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น คงต้องภาคสื่อมวลชน สถานประกอบการเอกชน ผู้นำชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน การเปิดประเทศผ่อนคลายจะเป็นไปอย่างปลอดภัย จะอยู่ที่การฉีดวัคซีนด้วย"
- ไทยติดเชื้อรายใหม่ 6,428 ราย
"สถานการณ์โควิด-19" ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 6,428 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,071,009 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 49 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 20,436 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 85,768 ราย อาการหนัก 1,595 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 382 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 7,882 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.2564 จำนวน 1,937,379 ราย
- เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ ลดเสียชีวิต
ทั้งนี้ ในผู้เสียชีวิต 49 ราย กลุ่มผู้สูงอายุ และมีโรคเรื้อรัง ยังเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยรวมทั้งสองกลุ่มติดเชื้อ 93% โดยมีเด็กอายุ 14 ปี ติดเชื้อเสียชีวิต จ.ปัตตานี ทั้งนี้ เป็นกลุ่มเด็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ขอเน้นย้ำผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลานอายุ 12-17 ปี ตอนนี้ภาคใต้วัคซีนไฟเซอร์ เข้าไปถึงพื้นที่แล้ว ขอให้ช่วยกันรณรงค์และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย
อย่างที่เน้นย้ำว่า ผู้ป่วยติดเตียง ยังพบเสียชีวิตทุกวัน โดยวันนี้ 1 ราย โดยเฉพาะในจังหวัดที่ อาจจะรู้สึกว่ามีการติดเชื้อน้อย ผู้สูงอายุอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน แต่ต้องพึงระวังว่า ตอนนี้มีการเปิดบ้านเปิดเมือง เดินทางข้ามพื้นที่ มีคนรู้จัก คนใกล้ชิด เพื่อนบ้าน อาจจะมีความเสี่ยง ถึงจะอยู่ในพื้นที่ไม่มีการแพร่ระบาดสูง แต่ก็ขอให้เน้นย้ำพาผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเหล่านี้ ไปรับวัคซีน จะได้มีความปลอดภัย หากไม่สะดวกขอให้ติดต่อไปยัง รพ. ใกล้บ้าน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถปรับกลยุทธ์อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนได้
- ภาพรวมผลบวก RT-PCR ทั่วประเทศราว 10%
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า อัตราการตรวจ RT-PCR ภาพรวมประเทศ พบผลบวกราว 10% จากการตรวจ 30,000 – 40,000 รายต่อวัน โดยแต่ละเขต เช่น เขตสุขภาพที่ 1 มีอัตราตรวจพบผลบวก 20% เขตสุขภาพที่ 2 สัดส่วน 36% และเขตสุขภาพที่ 12 ภาคใต้ บางช่วงขึ้นไปถึง 50%
ขณะที่การตรวจ ATK ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศพบผลบวก 3-4% โดยในพื้นที่กทม.ปริมณฑล ผลตรวจ ATK มีทิศทางลดลงทั้งหมด พบ ผลบวกสัดส่วน 14% ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร และนครปฐม ผลตรวจแนวโน้มลดลงเช่นกัน
- 5 จังหวัด ติดเชื้อเกิน 100 รายต่อวัน ATK ผลบวก 5%
สำหรับ จังหวัดที่ต้องจับตา ผลการตรวจ ATK อย่างใกล้ชิด กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่มีการติดเชื้อเกิน 100 ราย ต่อวัน และผล ATK เป็นบวกมากกว่า 5% ได้แก่ สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และบางจังหวัด เป็นจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว แต่ยังพบการติดเชื้อภายในจังหวัด ต้องเฝ้าระวังสูง
นอกจากนี้ ยังมีจังหวัดติดเชื้อมากกว่า 100 รายต่อวัน ATK เป็นบวกน้อยกว่า 5% ได้แก่ ขอนแก่น สระแก้ว นครราชสีมา และติดเชื้อ 80-100 รายต่อวัน ได้แก่ สระบุรี อุบลราชธานี อุดรธานี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมจังหวัดที่ต้องจับตาทั้งสิ้น 13 จังหวัด
- จังหวัดทิศทางพบเชื้อสูงขึ้น
ในส่วนของจังหวัดที่อัตราการติดเชื้อแนวโน้มสูงขึ้น 7 วันที่ผ่านมา ได้แก่ จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 ราย คือเชียงใหม่ และ จังหวัดที่มีอัตราติดเชื้อต่ำกว่า 100 รายต่อวัน แต่มีแนวโน้มสูงขึ้น ได้แก่ เชียงราย ลำพูน พิษณุโลก สิงห์บุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด
- พบ “คลัสเตอร์” ใหม่ระบาดต่อเนื่อง
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีการติดเชื้อรายวันสูงสุด ได้แก่
- กทม.
- สงขลา
- นครศรีธรรมราช
- ราชบุรี
- สุราษฎร์ธานี
- เชียงใหม่
- ปัตตานี
- สมุทรปราการ
- ชลบุรี
- ยะลา
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า คลัสเตอร์ ที่เน้นย้ำมาตลอด คือ งานบุญ ประเพณี พิธีกรรมทางศาสนา งานบวช โดย มีคลัสเตอร์งานกฐิน จ.ร้อยเอ็ด , งานศพ จ. กาญจนบุรี คลัสเตอร์ใหญ่ 19 ราย , งานศพ จ.อุดรธานี ต.โนนสะอาด ติดเชื้อ 7 ราย , แคมป์คนงาน จ.สระแก้ว ขอนแก่น ลำพูด เชียงใหม่ (อ.แม่ริม และ อ.ดอยสะเก็ด) เน้นย้ำว่า เชียงใหม่ เปิดรับนักท่องเที่ยวด้วย การติดเชื้อในจังหวัด ชุมชน ก็ยังติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง , คลัสเตอร์โรงเรียน จ.อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี , กทม. พบการระบาด ในโรงงาน ตลาด สถานประกอบการ
- กทม. สำรวจสถานบันเทิงพร้อมเปิด 225 แห่ง
สำหรับ รายงาน กทม. วันนี้ พบว่า สถานบันเทิงที่ขึ้นทะเบียน 1,443 แห่ง มีการสำรวจเบื้องต้น 975 แห่ง ปฏิบัติตามมาตรฐานพร้อมเปิด 225 แห่ง ร้อยละ 23 มีการแนะนำให้สถานประกอบการเหล่านี้เข้าไปดูรายละเอียด Thai Stop COVID+ ที่เว็บไซต์ของกรมอนามัย เพื่อศึกษาข้อปฏิบัติว่าจะทำให้สถานบริการเข้าเกณฑ์ COVID Free Setting ได้อย่างไร
ทั้งนี้ ยังมีเวลาที่จะปรับ หากจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสถานที่ ระบบปรับอากาศ จะมีกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เข้าไปช่วยดูแลสนับสนุนให้สถานประกอบการเหล่านี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA+ ได้ ทั้งนี้หากสถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานบันเทิงตอนนี้ ข้อเดียวที่ง่ายมากหากบุคลากร พนักงานยังไม่ได้ฉีดวัคซีน รีบพาไปรับวัคซีนโดยด่วน หากมีการรับพนักงานใหม่ ขอให้สอบถามการฉีดวัคซีนของพนักงานด้วย