เปิดใจสาว "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" แอสตร้าเซนเนก้า ผมร่วงหนัก วอนหน่วยงานเยียวยา
กรณีที่มีการแชร์ภาพหญิงสาวท่านหนึ่งพื้นที่ จ.ภูเก็ต "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ปรากฏว่า เธอมีอาการผิดปกติ "ผมร่วง" อย่างต่อเนื่อง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยา
กรณีที่มีการแชร์ภาพหญิงสาวท่านหนึ่งพื้นที่ จ.ภูเก็ต "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ปรากฏว่า เธอมีอาการผิดปกติ "ผมร่วง" อย่างต่อเนื่องและปัจจุบันต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเอง แถมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันซึ่งเธอต้องใช้วิกผมใส่มาทำงาน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตได้เข้ามาช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กลไกร่างกายที่ทำให้เกิด “ผมร่วงเป็นหย่อม” หลังฉีดวันซีนโควิด-19
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับหญิงสาวท่านนี้ทราบชื่อ คุณแอน (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี เป็นพนักงานขายรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเธอเล่าว่า ตนได้เข้ารับการ "ฉีดวัคซีน" ซิโนแวคเข็มที่ 1 และ 2 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม และ 14 มิถุนายน 2564
ก่อนจะเข้ารับการ "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" แอสตร้าเซนเนก้า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา เป็นการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หลังจากฉีดเสร็จเมื่อกลับถึงบ้านมีอาการไม่สบายเป็นไข้ประมาณ 2 วัน ตัวร้อน ปวดหัว ปวดข้อ หนาว เพลียเหนื่อย หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่าๆ สังเกตพบว่า ผมเริ่มร่วง โดยเฉพาะเวลาสระผมจะร่วงเป็นกระจุกๆ แม้กระทั่งนั่งเฉยๆโดนพัดลมเป่าก็ร่วงและเมื่อเอามือเสยก็ร่วงหลุดติดมือมาด้วย
ต่อมาในวันที่ 10 ตุลาคม 2564 จึงได้ตัดสินใจไปพบแพทย์ที่คลินิกและเจาะเลือด เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่ามีภาวะเลือดซีด ซึ่งจากการตรวจร่างกายที่ผ่านมาพบว่า มีอาการแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไม่มีอาการผมร่วงและไม่มีอาการอะไรสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยแพทย์ได้ให้ยามากิน ซึ่งตนเสียค่ารักษาเองทั้งหมด
บางครั้งเงินไม่พอต้องขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้า ทำให้ตอนนี้ใช้ชีวิตลำบากมากๆ ไปไหนมาไหนก็อายคน ในขณะที่งานก็ต้องทำ แต่ยังโชคดีที่ครอบครัว เพื่อนๆที่ทำงานและเจ้านายเข้าใจ โดยทุกวันนี้เมื่อไปทำงานหรือออกไปข้างนอกต้องหาวิกผมปลอมมาใส่
อย่างไรก็ตาม แอน ยังได้บอกด้วยว่า ตนเชื่อว่าสาเหตุที่ผมร่วงนั้นเกิดมาจากวัคซีนแน่นอน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการดังกล่าวร่วงและพยายามไปรักษาทั้งพบแพทย์ที่คลินิกและโรงพยาบาลของรัฐแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น และยังไม่มีคำยืนยันจากแพทย์ว่าจะหายหรือไม่ ต้องใช้เวลาในการรักษานานแค่ไหน
ซึ่งแต่ละครั้งที่ไปพบแพทย์จะต้องมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,000-3,000 บาท โดยตนได้ไปยื่นเรื่องกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อขอเยียวยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้หาเอกสารที่แพทย์ทำการรักษา ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีใครรับรองให้ได้หรือไม่ หรือกล้ายืนยันว่าตนได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนหรือไม่ แต่ส่วนตัวมั่นใจ 100% ว่าเกิดจากวัคซีน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเยียวยา โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล