"อนุทิน"เผย 1 รายยังไม่ยืนยันติดโควิด-19เก่าหรือใหม่ "โอมิครอน"หรือไม่

     เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2564  ที่รพ.ราชวิถี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.)ระบุว่ามีผู้สัมผัสชาวอเมริกันที่ประเทศไทยตรวจพบโอมิครอนรายแรกติดเชื้อ 1 รายว่า  รายนี้มีปริมาณเชื้อที่น้อยมากมีค่าCT 36 คือเจ้าหน้าที่ต้องปั่นเชื้อถึง 36 รอบกว่าจะตรวจหาเชื้อเจอ หากตรวจด้วยATKก็จะไม่เจอเชื้อแล้ว และหากเป็นผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาในรพ.แพทย์ก็อนุญาตให้ออกจากรพ.ได้แล้ว เพราะมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อต่อให้คนอื่นได้น้อยมากๆ ซึ่งการที่ตรวจพบเชื้อในปริมาณน้อยเช่นนี้เป็นได้ทั้งเคยติดเชื้อมาก่อน หรือเพิ่งติดเชื้อใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจยืนยัน รวมถึง สายพันธุ์ด้วย  ต้องใช้เวลาอย่างประมาณ 3 วัน เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้อง

      ผู้สื่อข่าวถามถึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มมาตรการในการเข้าประเทศไทยหรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า  กระทรวงการต่างประเทศได้จำกัดการเข้าประเทศจากผู้ที่เดินทางจากทวีปแอฟริกาแล้วด้วยการไม่ออก Thailand Pass จำกัดคนได้จำนวนมาก แต่จะเหลือในประเทศอื่นๆ ซึ่งมีระบบคัดกรอง ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลย  จากเดิมวันที่ 16 ธ.ค. 2564 จะปรับการคัดกรองผู้เข้าประเทศด้วยการตรวจ ATK ในผู้ที่เดินทางรูปแบบเทสต์แอนด์โกเมื่อมาถึงไทย แต่เมื่อองค์การอนามัยโลกรายงานพบโอมิครอน ก็เลื่อนออกไป และยืนยันให้ตรวจด้วย RT-PCR เท่านั้น
         ถามย้ำถึงประเทศอื่นๆนอกทวีปแอฟริกาที่เริ่มพบการระบาดของโอมิครอนในประเทศต้องพิจารณาจำกัดหรือห้ามเข้าประเทศไทยเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า  ขณะนี้จำกัดอยู่แล้วผ่านมาตรการที่กำหนด แต่ ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะที่ไหนในโลก ไม่ว่าจะแอฟริกา อเมริกา เอเซีย หรือยุโรป ผู้จะขึ้นเครื่องได้ต้องผ่านการตรวจ RT-PCR ก่อน รวมถึงจะต้องมีการรับรองการฉีดวัคซีนด้วย ดังนั้น โอกาสหลุดยาก เพราะถูกจำกัดด้วยมาตรการ จริง ๆ เราไม่จำเป็นต้องหากประเทศไหน แต่เพื่อความสบายใจของประชาชน ลดการตื่นตระหนกให้น้อยลงในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เราจะหาความสุขกัน เราจึงประกาศจำกัดการเดินทางจากสายการบินจากแอฟริกา

        “เราระวังเต็มที่ แต่ไม่ใช่จะล็อกทุกอย่างเพราะเราเพิ่งเปิดมา คนเริ่มทำมาหากิน เริ่มสัญจรไปมา สร้างโอกาสในธุรกิจต่างประเทศ เราต้องพยายามทำให้ทุกอย่างไปได้เรียบร้อยทุกมิติ ภายใต้การควบคุม หากมีผู้ติดเชื้อเราก็มีสถานที่ดูแล มียา เรามีความพร้อม” นายอนุทิน กล่าว

    นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับสายพันธุ์โอมิครอน เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ไม่ช้าหรือเร็วก็จะต้องเข้ามา มีโอกาสเข้าได้ทุกประเทศ เพราะคนมีการเดินทาง ก็ตั้งรับไว้ ให้มีการตรวจเชิงรุกมากขึ้น พร้อมกับดูว่ามีความรุนแรงอย่างไร วัคซีนครอบคลุมได้ระดับไหน เพื่อให้มีมาตรการรับมือต่อไป  หากได้รับวัคซีนเต็มที่ครบแล้ว ใช้มาตรการป้องกันตัวสูงสุดแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ออกจากบ้านก็ระวัง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือตลอดเวลา มันก็จะทำอะไรไม่ได้ อย่ากังวลจนเกินไปนัก

          ขณะที่ ระบบคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ ได้เพิ่มความเข้มข้นในการคัดกรอง ทำให้เพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนรายแรก เป็นผู้เดินทางจากประเทศสเปน แวะที่ดูไบ ซึ่งสามารถตรวจจับคัดกรองได้ เพื่อนำเข้ารักษา เมื่อสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสกี่คน ก็ตามไปเฝ้าระวัง กักตัว แยกตัวตามระบบการควบคุมโรค ไม่ใช่สิ่งน่ากังวลอะไร

         “องค์การอนามัยโลก นักวิชาการ การแพทย์ คาดหวังว่าโอมิครอน แม้ว่าจะระบาดง่าย แต่อนุภาคการทำลายสุขภาพไม่น่าที่จะแตกต่างจากไวรัสสายพันธุ์อื่น ก็ถือว่าวัคซีนที่ไทยใช้สามารถป้องกันได้ ลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้แน่นอนหากท่านไม่มีโรคแทรกซ้อน ขอให้ทุกคนเข้ามารับวัคซีนเพิ่มเติม เพราะที่ฉีดได้น้อยตอนนี้เนื่องจากคนรับไปมากแล้ว กลุ่มเสี่ยงเป้าหมายฉีดได้ 100%  กลุ่มชาวแรงงานต่างด้าวก็ฉีดแล้ว แต่ยังมีบางกลุ่มที่ลังเล ก็ขอให้มารับการฉีด”นายอนุทินกล่าว