ไทยเจอ"โอมิครอน"เพิ่ม หญิงไทยกลับจากไนจีเรีย
สธ.เผยไทยเจอโอมิครอนอีก 2 ราย หญิงไทยกลับจากไนจีเรีย เข้ามาไทยเมื่อราว 24 พ.ย. ผ่านระบบกักตัวจนครบ 14 วันแล้ว อาการน้อย หายแล้ว ตรวจเจอจากการเฝ้าระวังย้อนหลัง เผยแนวโน้มโอมิครอนก่อโรคไม่รุนแรง ทั่วโลกยังไม่มีตาย
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังจากที่องค์การอนามัยโลก(WHO) ประกาศให้โควิดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธฺน่ากังวลเมื่อวันที่ 26 พ.ย.2564 ประเทศไทยก็ได้มีการเฝ้าระวังสายพันธุ์นี้ โดยมาตรการหนึ่งคือการนำตัวอย่างเชื้อของผู้ที่เข้าประเทศไทยก่อนวันที่ 26 พ.ย.2564 แล้วพบว่าติดเชื้อมาตรวจหาสายพันธุ์ ผลเบื้องต้นพบเป็นโอมิครอน 2 ราย
2 รายนี้เป็นหญิงไทย อายุ 36 และ 46 ปี กลับมาจากไปทำกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศไนจีเรีย เข้าประเทศไทยเมื่อราววันที่ 24 พ.ย.2564 ในรูปแบบการกักตัว และตรวจหาเชื้อด้วยวิธีRT-PCR พบเชื้อตั้งแต่วันแรกที่มาถึง และได้อยู่ในระบบกักตัวจนครบกำหนด มีอาการน้อยมาก หายดีและออกจากการกักตัวไปเรียบร้อยแล้ว
“ความเสี่ยงได้จากการสอบประวัต 2 รายนี้ คือช่วงที่ไปทำกิจกรรมในต่างประเทศจะไม่ค่อยได้ใส่หน้ากาก เพราะฉะนั้น อยากเตือนคนไทยที่ช่วงนี้เดินทางไปต่างประเทศค่อนข้างมาก แม้จะไปในประเทศที่ส่วนใหญ่ที่นั่นจะไม่ใส่หน้ากากอนามัย คนไทยจึงมักไม่ค่อยใส่หน้ากากอนามัยด้วย จึงขอความร่วมมือว่าแม้จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็ขอให้คงมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น ทั้งการใส่หน้ากากและมาตรการอื่นๆ”นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สายพันธุ์โอมิครอน ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญสอดคล้องกันว่าแนวโน้มความรุนแรงค่อนข้างน้อย และวันนี้(8 ธ.ค.)องค์การอนามัยโลก ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนแม้แต่รายเดียว ทั้งนี้ ข้อมูลทางระบาดวิทยาขณะนี้ทั่วโลกมองว่าโอมิครอนน่าจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ย. เจอมาแล้วเกือบ 2 เดือน แต่การระบาดไม่มากเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตาที่เมื่อเจอที่อินเดียก็พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแบบพุ่งขึ้นสูง ส่วนความรุนแรงแนวโน้มค่อนข้างน้อย ขอย้ำว่าข้อมูลทุกอย่างต้องผ่านการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน คงเอาข้อมูลอันเดียวมาบอกไม่ได้ กระทรวงสาธารณสุขจะนำข้อมูลต่างๆ มาประมวล รวบรวมและแจ้งให้ประชาชนทราบเป็นระยะยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์โอมิครอนแม้แต่รายเดียวในทั่วโลก