กทม.พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จากกลุ่มตัวอย่าง 18.3%
ศบค.เผยไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 2,460 ราย เสียชีวิต 32 คน กรมวิทย์ฯ ระบุ สายพันธุ์ระบาดในไทยยังคงเป็นเดลต้า ขณะที่ในกทม.จาก 180 ตัวอย่าง เป็นโอมิครอน 18.3% เปิด 10ประเทศต้นทางเปิดประเทศ ติดเชื้อสูงสุด ส่วนยอดฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสก่อนสิ้นปี
วันนี้ (20 ธ.ค.2564)ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,525 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากในประเทศ 2,460ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 42 รายและผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 23 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ (ระลอกเดือนเม.ย.) 2,165,190 ราย
ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 32 คน ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 21,314 คน ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 21,408 คน ผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 40,097ราย กลุ่มคนไข้อาการหนักที่มีอาการปอดอักเสบที่น่าวิตก 899 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 246 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 4,190 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน2,132,548ราย
ส่วน 10 อันดับจังหวัด ผู้ติดเชื้อสูงสุด มีดังนี้ กทม. 408 ราย นครศรีธรรมราช 175ราย สมุทรปราการ 139 ราย ชลบุรี 128 ราย สงขลา 88 ราย เชียงใหม่ 78 ราย สุราษฎร์ธานี 75 ราย กระบี่ 70 ราย พัทลุง 67 ราย และ ตรัง 58 ราย
- กทม.พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอน 18.3%
ทั้งนี้ เมื่อมีการจำแนกสายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตั้งแต่วันที่เม.ย.2564-19 ธ.ค.2564 พบว่า เขตสุขภาพทั้ง 13 เขต ยังคงเป็นผู้ป่วยติดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า 33,655 ราย หรือ 68.67% รองลงมาเป็นสายพันธุ์อัลฟา 14,603 ราย หรือ 29.79% สายพันธุ์เบต้า 692 ราย หรือ 1.41% และสายพันธุ์โอมิครอน 63 ราย หรือ 0.13%
ส่วนภาพรวมทั้งประเทศ ระหว่างวันที่ 11-19 ธ.ค.2564 จำนวน 1,595 ตัวอย่าง พบผู้ป่วยสายพันธุ์เดลต้า 96.61% และโอมิครอน 3.26% หากแบ่งเป็นกรุงเทพ จำนวน 180 ตัวอย่าง เป็นสายพันธุ์เดลต้า 81.1% และโอมิครอน 18.3% ขณะนี้ภูมิภาค จำนวน 1,415 ตัว อย่าง เป็นสายพันธุ์เดลต้า 98.6% และโอมิครอน 1.3%
หลังจากประเทศไทยเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ สามารถเข้าทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ 1-19 ธ.ค.2564 สะสม 160,445 คน ติดเชื้อ 348 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.22 % แบ่งเป็น Test&Go เดินทางเข้าไทย 138,181คน ติดเชื้อ 205 ราย 0.15% Sandbox 18,449 คน ติดเชื้อ 48 ราย 0.27 % และ Quarantine 3,815 คน ติดเชื้อ 95 ราย 2.49%
- 10ประเทศต้นทางเข้าไทยติดเชื้อโควิด-19
สำหรับ อัตราการติดเชื้อของผู้เดินทางเข้าไทย จำแนกตามประเทศต้นทาง 10 อันดับ ได้แก่ เยอรมนี 13,102 คน ติดเชื้อ 22 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.17% สหราชอาณาจักร 11,110 คน ติดเชื้อ 60 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.54% รัสเซีย 7,082 คน ติดเชื้อ 29 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.41%
สหรัฐอเมริกา 6,809 คน ติดเชื้อ 35 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.51% ฝรั่งเศส 6,171 คน ติดเชื้อ 18 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.29% สวีเดน 5,933 คน ติดเชื้อ 9 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.15% UAE 5,453 คน ติดเชื้อ 12 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.22% นอร์เวย์ 4,297 คน ติดเชื้อ 8 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.19% เกาหลีใต้ 4,039 คน ติดเชื้อ 1 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.02% และ อิสราเอล 3,717 คน ติดเชื้อ 5 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.13%
- ไทยฉีดวัคซีนสะสมครบ 100 ล้านโดส
ส่วนยอดฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564-19 ธ.ค.2564 สะสมทั้งหมด 100,054,961โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 สะสม 50,573,308 ราย คิดเป็น 70.21% ของประชากร เข็มที่ 2 สะสม 44,393,213 ราย คิดเป็น 61.63 %ของประชากร เข็มที่3 สะสม 5,020,704 ราย คิดเป็น 6.97% ของประชากร และเข็มที่ 4 สะสม 66,722 โดส คิดเป็น 0.09%
ขณะที่ ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำแนกตามจังหวัดและการได้รับวัคซีนตามเป้าหมาย วันที่ 20 ธ.ค.2564 (ผลการดำเนินงานถึง 19 ธ.ค.2564) พบว่า มี17 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนตั้งแต่ร้อยละ 70 ได้แก่ ปทุมธานี สมุทรสาคร สงขลา เชียงราย จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ลำพูน กรุงเทพ เชียงใหม่ ชลยุรี ระยอง สมุทรปราการ พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี และกระบี่
