ผลวิจัยชี้ชัด "แอสตร้าเซนเนก้า" เข็มกระตุ้น ป้องกันโอมิครอนได้

วันนี้ (23 ธ.ค.2564)พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ โควิด-19ประจำวัน ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,671  ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากในประเทศ 2,558 ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 55 รายและผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 58 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ (ระลอกเดือนเม.ย.) 2,175,809 ราย

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 27 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 21,434 คน ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 21,528 คน ผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 38,192 ราย กลุ่มคนไข้อาการหนักที่มีอาการปอดอักเสบที่น่าวิตก 836 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 218 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 2,766ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 2,144,952 ราย

ส่วนรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ 27  ราย พบว่า เป็นเพศชาย 13 ราย หญิง 14 ราย เป็นชาวไทย 27ราย โดยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 21 ราย คิดเป็น 78 % และ กลุ่มโรคเรื้อรัง 4 ราย คิดเป็น 15% ทั้งสองกลุ่มคิดเป็นสัดส่วน 93%

 

• แอสตร้าเซนเนก้า เข็มกระตุ้นป้องกันโอมิครอนได้

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่าขณะนี้ แอสตร้าเซนเนก้า ได้รายงานชัดเจนว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดสที่ 3 มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยมีระดับการลบล้างฤทธิ์คล้ายคลึงกับประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้า หลังจากการฉีดวัคซีน2 โดส แอสตร้าเซนเนก้า ได้เปิดเผยด้วยว่ากำลังทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเพื่อผลิตวัคซีนสำหรับป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เช่นเดียวกับผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ ที่ต้องการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวโดยเฉพาะ

ด้าน โฆษกของแอสตร้าเซนเนก้า ระบุในแถลงการณ์ว่า ในการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดนั้น เราได้ดำเนินการเบื้องต้นเพื่อผลิตวัคซีน สำหรับป้องกันโอมิครอน หากมีความจำเป็นและได้รับแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลใหม่ๆ โดยหลักการแล้ว วันซีนที่ใช้อะดิโนไวรัส เช่นแอสตร้าเซนเนก้า สามารถนำมาใช้เพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้รวดเร็วกว่าที่อาจจะเคยรับรู้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว สามารถไปติดต่อขอฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้

ส่วนยอดฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564-23 ธ.ค. 2564 สะสมทั้งหมด 101,609,859 โดส  แบ่งเป็น เข็มที่ 1 สะสม 50,861,722 ราย คิดเป็น 70.6% ของประชากร เข็มที่ 2 สะสม 45,016,506ราย คิดเป็น 62.5 %ของประชากร เข็มที่3 สะสม 5,731,631 ราย คิดเป็น 8.0% ของประชากร 

 

• เปิดคลัสเตอร์เฝ้าระวังแพร่ระบาดโควิด

ขณะที่ 10 จังหวัดอันดับแรกที่พบผู้ป่วยสูงสุด พบว่า กทม. 411 ราย ชลบุรี 175 ราย นครศรีธรรมราช 144 ราย สมุทรปราการ 87 ราย สงขลา 85 ราย ขอนแก่น 73 ราย ราชบุรี 60 ราย พัทลุง 59 ราย  พิษณุโลก 59 ราย และเชียงใหม่ 56 ราย

ส่วนของคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวัง จะเป็นในส่วนของโรงงานและสถานประกอบการ ซึ่งมีการรายงานในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น กทม. เพชรบุรี ขอนแก่น ปราจีนบุรี ชลบุรี และอุดรธานี ขณะที่ตลาด มีที่บึงกาฬ ศรีสะเกษ อยุธยา ลพบุรี ส่วนห้างสรรพสินค้า มีเพชรบุรี เชียงใหม่ ตลาดน้ำมีอุบลราชธานี

คลัสเตอร์พิธีกรรมทางศาสนา มีจังหวัดกาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และจ.เลย ขอเน้นย้ำว่าในการทำกิจกรรมงานศาสนาใดๆ ก็ตาม ทางคณะกรรมการโรคติดต่อ ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่จะสวมหน้ากากอนามัยได้ตลอดเวลา แต่จะมีจุดอ่อน คือ เมื่องานพิธีกรรมสิ้นสุดลง จะมีการจัดเลี้ยง รับประทานอาหารร่วมกัน มีการจัดวงไพ่วงการพนัน ทำให้มีการถอดหน้ากากอนามัย เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ ขอให้ผู้จัดเฝ้าระวัง

ส่วนแคมป์คนงาน มีรายงานสระแก้ว มีโรงเรียนที่แม่ฮ่องสอน และตอนนี้หลายๆ จังหวัดได้มีการเข้ากวดขันการเปิดสถานบันเทิง เนื่องจากมีการลักลอกเปิดในบางพื้นที่