สภาฯรามคำแหง แจงปมถอดถอนอธิการ ยันบริหารงานบกพร่อง เริ่มมีผล 25 ธ.ค.นี้
สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง แจงปมถอดถอนอธิการบดี หลังรับตำแหน่งไม่ถึง 5 เดือน ระบุ บริหารงานบกพร่อง ทำมหาวิทยาลัยเสียหาย ไม่เกี่ยวกับการโอนที่ดิน เริ่มมีผลตั้งแต่ 25 ธ.ค.2564 นี้
วันนี้ (28 ธ.ค.2564) ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง(ม.ร.) ศ.ดร.สมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภาม.ร. ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย พร้อมด้วยดร.สุพจน์ อร่ามวัฒนา กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ และรศ.ดร.พันธ์เทพ วิทิตอนันต์ ประธานสภาคณาจารย์และกรรมการสภามหาวิทยาลัย แถลงข่าว มติถอดถอน ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งดำรงตำแหน่งอธิการบดีไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2564 ที่ผ่านมา
ศ.ดร.สมบูรณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมสภาม.ร.วันที่ 24 ธันวาคม 2564 มีการหารือร่วมกันในหลายเรื่องและหนึ่งในนั้น มีการหารือประเด็นถอดถอน ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี ทั้งนี้ที่ประชุมได้หารือเรื่องดังกล่าวและเสียงข้างมากเห็นว่า อธิการบดีไม่สมควรดำรงตำแหน่งอีกต่อไป ทั้งนี้ในการประชุมวันดังกล่าว มีกรรมการสภาฯ เข้าร่วม 22 ราย ประกอบด้วยเข้าร่วมประชุมแบบออนไซต์ จำนวน 17 ราย และประชุมออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นซูม 5 ราย โดยมีมติถอดถอนอธิการบดี 16 เสียง คัดค้าน 0 และงดออกเสียง 5 เสียง และมีผลในวันที่ 25 ธ.ค.2564
- 4 ประเด็น บริหารงานบกพร่องเหตุถูกถอดถอน
รศ.ดร.พันธ์เทพ กล่าวว่า การถอดถอนนายสืบพงษ์ เป็นวาระที่สืบเนื่องมาจากการประชุม ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2564 โดยในการประชุมครั้งนั้นที่ประชุมได้สอบถาม ดร.สืบพงษ์ ในฐานะอธิการบดีเกี่ยวกับการบริหารมหาวิทยาลัย ใน 4 ประเด็น
1.การฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยการประชุมสภาม.ร.พ.ศ.2541 ตามจดหมายที่ได้มีการแจ้งเลื่อนการประชุม สภามหาวิทยาลัยวันที่ 23 พ.ย. - 9 ธ.ค.2564
2.เรื่องการหารือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เกี่ยวกับเอกสารที่ได้จัดส่งไปให้ อว. โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับสภามหาวิทยาลัยก่อน
3.การแต่งตั้งอาจารย์ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
4.เรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการสรรหานายก สภาม.ร. โดย ดร.สืบพงษ์ ทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 7 วัน
ทั้งนี้ ดร.สืบพงษ์ ได้ชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษร ในประชุมสภาฯ วันที่ 24 ธันวาคม 2564 โดยกรรมการสภาฯ ได้สอบถามดร.สืบพงษ์ ว่าเหตุใด อธิการบดีจึงได้ฝ่าฝืนข้อบังคับของทางสภามหาวิทยาลัย ด้วยการสั่งเลื่อนการประชุมสภาฯ ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน ทั้งที่ไม่มีอำนาจในการสั่งเลื่อน ซึ่งอธิการบดีในขณะนั้น ได้ขอใช้สิทธิชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่เสนอให้ที่ประชุมทุกข้อ ที่ประชุมจึงได้มีมติให้ดร.สืบพงษ์ ออกจากห้องประชุมเพื่อจะได้พิจารณาคำชี้แจงอย่างรอบคอบ
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย พบว่า ดร.สืบพงษ์ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภาฯ ถึง 2 วาระ ก่อนที่จะเป็นอธิการบดี ดังนั้นการกล่าวอ้างว่าไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับข้อบังคับมหาวิทยาลัย จึงฟังไม่ขึ้น การที่ดร.สืบพงษ์ ไม่เรียนประชุมสภาฯ เพื่อให้มีการเลือกอุปนายกสภาฯ ตามที่กรรมการสภาฯ 8 คนเข้าชื่อ จึงเป็นการขัดต่อข้อบังคับ ที่ประชุมสภาฯพิจารณาแล้วเห็นพ้องกันว่า การที่ฝ่ายบริหารพยายามเลื่อนการประชุมสภาฯ และไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ ทั้งที่สภาฯ ต้องการแก้ไขปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับมหาวิทยาลัยไม่ให้ลุกลามบานปลาย แต่ดร.สืบพงษ์กลับไม่ให้ความร่วมมือ โดยให้เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นว่า ต้องรอคำตอบเกี่ยวกับองค์ประกอบของกรรมการสภาฯ ที่ได้หารือกับทางอว.ซึ่งดร.สืบพงษ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการสภาฯ ถึง 2 วาระย่อมตระหนักดีว่าสภาฯไม่มีปัญหาเกี่ยวกับองค์ประกอบ
รศ.ดร.พันธ์เทพ กล่าวต่อว่า การขอเลื่อนประชุมสภาฯ จะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่องานราชการของมหาวิทยาลัยในทุกด้าน โดยเฉพาะ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจำนวนหลายพันคนที่กำลังรอใบรับรองจากสภาฯ เพื่อนำไปสมัครงานสมัครเรียน ตลอดจนไปศึกษาต่างประเทศ บัณฑิตบางรายสอบเข้าทำงานแล้วแต่ก็ไม่สามารถมีใบรับรองจากสภาฯ ส่วนบางรายอาจถูกปรับเพื่อชดใช้ทุน เนื่องจากไม่มีเอกสารแสดงการสำเร็จการศึกษาภายในเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ สภาฯไม่สามารถรับรองหลักสูตรในทุกระดับและเอกสารที่แก้ไขปรับปรุงจำนวนมากเพื่อให้ทันต่อการประกาศใช้ในปีถัดไป ส่วนอาจารย์ที่ผ่านการอนุมัติให้เข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ก็ไม่สามารถเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการสภาฯได้เช่นกัน ความบกพร่องอย่างร้ายแรงของดร.สืบพงษ์ นอกจากไม่สนใจแก้ปัญหาที่เห็นขึ้นแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงการขาดวิจารณญาณและคุณธรรมที่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งอธิการบดีต่อไป
“ส่วนกรณีที่ ดร.สืบพงษ์ ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการรับโอนที่ดิน 2 แปลงที่สัมพันธ์กับคดีร่ำรวยผิดปกติก่อนที่จะลงสมัครสรรหาเป็นอธิการบดีนั้น ทางสภาฯได้รับเรื่องร้องเรียนในเดือนส.ค. 2564 โดยจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและเพื่อความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร กรณีนี้เป็นประเด็นใหม่ซึ่งทางสภาฯ เพิ่งทราบก่อนหน้าเสนอ อว.ให้แต่งตั้ง โดยหลังจากรับทราบก็ได้สอบถามไปยังดร.สืบพงษ์ ซึ่งจะมีการพิจารณาต่อไป โดยประเด็นนี้ไม่ได้มีส่วนนำมาพิจารณาถอดถอนอธิการบดีครั้งนี้“รศ.ดร.พันธ์เทพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร.สืบพงษ์ จะฟ้องศาลปกครองนั้นถือเป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ แต่กระบวนการภายในม.ร.ถือว่าสิ้นสุด และที่ประชุมสภาฯ ได้มีการแต่งตั้งรศ.สุวรรณี เดชวรชัย คณบดีคณะบริหารธุรกิจ กรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดีอีกตำแหน่งหนึ่ง ส่วนการเตรียมสรรหาอธิการบดีนั้นต้องรอเวลาที่เหมาะสม
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์