"สปสช." ชวนเพิ่มเพื่อน ยืนยันตัวตนกับไลน์ @nhso
สปสช. ชวนเพิ่มเพื่อนกับไลน์ สปสช. หรือ @nhso ยืนยันตัวตนไว้ล่วงหน้า หากในอนาคตต้องรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK หรือติดเชื้อต้องเข้ารับการดูแลที่บ้านหรือ "Home Isolation"
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากติดต่อมายัง สปสช. ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองด้วย Antigen test kit (ATK) หรือให้ประสานหาหน่วยบริการรับดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home Isolation และ Community Isolation)
ซึ่งในขั้นตอนการเข้ารับบริการจากโรงพยาบาล คลินิกชุมชนอบอุ่น หรือหน่วยบริการอื่นๆ จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนก่อน ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่ประชาชนผู้รับบริการ ทาง สปสช. จึงได้ปรับปรุงระบบการยืนยันตัวตนผ่าน Line OA หรือไลน์ออฟฟิเชียลของ สปสช.ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับประชาชนในการยืนยันตัวตนก่อนเข้ารับบริการ
ด้วยเหตุนี้ สปสช. จึงขอเชิญชวนประชาชนทั้งที่ใช้สิทธิบัตรทองหรือไม่ได้ใช้สิทธิบัตรทอง รวมทั้งไม่ว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อโควิดหรือไม่ได้ติดเชื้อก็ตาม ให้เข้ามาเพิ่มเพื่อน หรือ add friend ที่ไลน์ สปสช. @nhso เพื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนไว้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ ควรอย่างยิ่งที่จะเข้ามา add friend และลงทะเบียนยืนยันตัวที่ @nhso เอาไว้ เพราะไม่มีใครทราบว่าในอนาคตท่านจะติดเชื้อหรือไม่
"หากในอนาคตท่านมีความจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองด้วย ATK หรือตรวจพบว่าติดเชื้อและจำเป็นต้องเข้า Home Isolation เมื่อสามารถจับคู่กับหน่วยบริการได้แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนยันตัวตน สามารถสแกน QR code จากหน่วยบริการที่ดูแลท่านแล้วเข้ารับบริการได้อย่างรวดเร็ว” ทพ.อรรถพร กล่าว
ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิดที่กำลังกักตัวที่บ้านรอจับคู่กับหน่วยบริการเพื่อดูแลแบบ Home Isolation ท่านที่มีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนก็สามารถยืนยันตัวตนผ่านช่องทางนี้ ซึ่งก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อำนวยความสะดวก สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน เมื่อหน่วยบริการตอบรับแล้วส่ง QR code มาให้ ก็สามารถสแกนแล้วเข้าสู่ระบบการดูแลได้เลย กรณีที่ไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนก็ยังใช้วิธีการยืนยันตัวตนแบบเดิมคือแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
"สาเหตุที่เราต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนรับบริการก็เพื่อป้องกันการสวมสิทธิเอาชื่อคนอื่นมารับบริการแทนท่าน ดังนั้นการยืนยันตัวตนจึงเป็นการปกป้องสิทธิของท่านไม่ให้ถูกผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ แล้วพอถึงเวลาที่ต้องใช้สิทธิเข้ารับบริการหรือรับการรักษาจริงๆ ท่านอาจจะไม่ได้รับบริการเพราะถูกคนอื่นอ้างสิทธิไปแล้ว ดังนั้น ขอท่านสละเวลาสักเล็กน้อย add friend มาที่ @nhso แล้วยืนยันตัวตนเอาไว้ก่อน พอในอนาคตถึงเวลาที่ต้องรับบริการ ท่านก็รับบริการได้เร็วขึ้น ไม่ต้องไปเสียเวลายืนยันตัวตนซ้ำอีก" ทพ.อรรถพร กล่าว
ทพ.อรรถพร กล่าวอีกว่า สำหรับบริการที่เปิดให้ยืนยันตัวตนก่อนรับบริการผ่าน ไลน์ @nhso นั้น เบื้องต้นคือบริการตรวจคัดกรองโควิดด้วย ATK และบริการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดแบบ Home Isolation หรือ Community Isolation และในอนาคตจะมีการขยายไปยังบริการอื่นๆ ต่อไป
- วิธีการยืนยันผ่าน Line OA
สำหรับวิธีการยืนยันตัวตนผ่าน Line OA นั้น เบื้องต้น มีขั้นตอนดังนี้
1. เพิ่มเพื่อนหรือ add friend กับไลน์ สปสช. โดยพิมพ์ @nhso ก่อน หรือคลิกที่ลิงค์ https://lin.ee/zzn3pU6
2. จากนั้นเข้าไปที่เมนู "ขอรหัสเข้ารับบริการ"
3. กด "อนุญาต" หรือ allow ให้ผู้ให้บริการการเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ หรือสิทธิการส่งข้อความไปที่ห้องแชท
4. ให้กรอกหมายเลขบัตรประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์
5. กด "ถัดไป" ระบบก็จะเข้าสู่หน้าประวัติการรับบริการ ซึ่งในหน้านี้จะบอกข้อมูลไว้ว่าผู้ลงทะเบียนชื่ออะไร สิทธิที่ใช้เบิกค่ารักษาพยาบาลคือสิทธิอะไร สิทธิย่อย (ถ้ามี) คืออะไร
6. ในกรณีที่ต้องเข้ารับบริการกับหน่วยบริการ ก็สามารถกด "ขอรับรหัสเข้ารับบริการ" แล้วสแกน QR code ที่หน่วยบริการส่งมาให้ เพื่อยืนยันตัวตนแล้วรับบริการได้เลย
7. เมื่อยืนยันตัวตนเข้ารับบริการแล้ว ต่อไปในหน้านี้ก็จะบอกประวัติการรับบริการในบริการที่ต้องมีการยืนยันตัวตนในอดีตที่ผ่านมาด้วย
"ต้องบอกว่าบริการนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อำนวยความสะดวกสบายแก่ประชาชนที่ใช้สมาร์ทโฟน แต่ในส่วนของคนที่ไม่ถนัดที่จะใช้วิธีนี้ เช่น ผู้สูงอายุ ก็ยังสามารถใช้บัตรประชาชนยืนยันตัวตนกับหน่วยบริการได้เหมือนเดิม" รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการจับคู่กับหน่วยบริการเพื่อรับการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home-Community Isolation) แล้ว สปสช.เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่มีมือถือสมาร์ทโฟนสามารถยืนยันตัวตนผ่านไลน์ สปสช. ได้ โดยดูขั้นตอนได้ที่ คลิก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso