ตร. ตรวจจุดเกิดเหตุ "บิ๊กไบก์" ชน "หมอกระต่าย" ดับ พร้อมเก็บหลักฐานเพิ่มเติม
ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจสอบพื้นที่ทางม้าลาย จุดเกิดเหตุ ตำรวจขับบิ๊กไบก์ ชน หมอกระต่าย ดับ
28 ม.ค.2565 จากกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1กผ9942 เชียงราย ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ตามที่เสนอข่าว
ล่าสุดเวลา10.00น. พล.ต.ต.ฉัตรชัย นันทมงคล ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าตรวจสอบพื้นที่ทางม้าลาย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานความเร็วและข้อมูลทางเทคนิคนำไปประกอบสำนวนคดี โดยเจ้าหน้าที่ใช้ตลับสายวัด และอุปกรณ์ทางเทคนิค มาวัดระยะทาง จุด และช่วงถนนที่เป็นจุดสำคัญขณะเกิดเหตุ
รวมไปถึงความกว้าง และทางยาว ของถนน เพื่อนำไปคำนวนความระยะทางและความรถจักรยานยนต์ในช่วงระหว่างเกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ20นาที จึงแล้วเสร็จ ซึ่งการลงพื้นที่เพื่อหาหลักฐานในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการลงพื้นที่ตรวจครั้งแรกหลังเกิดเหตุ
พล.ต.ต.ฉัตรชัย กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบในเรื่องของ รายละเอียดต่างๆในสถานที่เกิดเหตุจริงเพื่อนำข้อมูลประกอบสำนวนคดีให้มีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจวัดระยะทางบนถนนตามจุดช่วงเริ่มต้น จนมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อคำนวณหาความเร็วของรถจักรยายนต์ขณะเกิดเหตุ แม้ว่าข้อมูลหลักฐานนี้ จะสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิด แต่เพื่อความชัดเจนจึงจำเป็นต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจากสถานที่จริง
ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำงานล่าช้า และทำงานมาโดยตลอดตามขั้นตอนเพราะก่อนหน้านี้ก็ มีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุไปแล้ว ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบพยานหลักฐาน ทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง ผลความเร็วรถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุ มั่นใจว่าจะอยู่ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน จะสามารถสรุปผลได้
ส่วนการตรวจสอบจากสถานที่จริงแม้ว่าในวันนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพไปจากวันเกิดเหตุ แต่ถือว่าไม่ใช่อุปสรรค เพราะก่อนหน้านี้ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไปแล้ว
นอกจากนี้จากการสั่งเกตุของผู้สื่อข่าวพบว่าบรรยากาศในการใช้รถใช้ถนน มีความระมัดระวังมากขึ้น ผู้ที่ขับผ่านทางม้าลายในจุดดังกล่าวมีการชะลอรถ หรือหยุดรถให้คนเดินเท้าเพิ่มมากขึ้ หรือในกรณีที่มีรถติดสะสมมาถึงช่วงทางม้าลาย ก็มีการเว้นระยะ ให้เข้าไปจอดทับสัญญาณจราจรบนพื้นถนน