ลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว "ปลดล็อกกัญชา"พ้นยาเสพติด
ลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว "ปลดล็อกกัญชา"พ้นยาเสพติด มีผลบังคับใช้ในอีก 120 วัน เหลือแค่ 1 ส่วนยังเป็นยาเสพติดเท่านั้น
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2565 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ พ.ศ. ๒๕๖๕
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๙ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
ข้อ ๑ ให้ยาเสพติดให้โทษที่ระบุชื่อดังต่อไปนี้ เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕
(๑) พืชฝิ่น พืชซึ่งมีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Papaver somniferum L. และ Papaver
bracteatum Lindl. หรือที่มีชื่ออื่นในสกุลเดียวกันที่ให้ฝุ่นหรือแอลคาลอยด์ของฝิ่น
(๒) เห็ดขี้ควายหรือพืชเห็ดขี้ควาย ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psilocybe cubensis (Earle)
Singer หรือที่มีชื่ออื่นในสกุลเดียวกันที่ให้สาร psilocybin หรือ psilocin
(๓) สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis ยกเว้น
(ก) สารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC)
ไม่เกินร้อยละ ๒ โดยน้ำหนัก เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้สกัดจากพืซกัญชาหรือกัญซงที่ปลูก
(ข) สารสกัดจากเมล็ดของพืชกัญซาหรือกัญชง ที่ได้จากการปลูกภายในประเทศ
ข้อ ๒ กรณียาเสพติดให้โทษตามข้อ ๑ ที่เป็นสารควบคุมคุณภาพในการตรวจวิเคราะห์
และควบคุมคุณภาพของการตรวจสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ตามกฎหมายว่าด้วย ะครื่องมือแพทย์ และต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ของเครื่องมือแพทย์นั้น ให้ยกเว้นจากการเป็นยาเสพติดให้โทษ
ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพันกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ประกาศ ณ วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕
อนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประกาศดังกล่าวมีผลให้กัญชา และกัญชง ไม่เป็นยาสพติด เว้นแต่สารสกัดที่มีค่าTHC เกิน 0.2%โดยน้ำหนักเพียงส่วนเดียว ที่ยังคงเป็นยาเสพติด ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากพืชทั้ง 2 ชนิดได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการออกกฎหมายเฉพาะออกมาควบคุมการใช้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้พรรคภูมิใจไทยมีการยื่น(ร่าง)พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ต่อประธานรัฐสภาแล้ว อยู่ระหว่างการส่งมาให้นายกฯและครม.พิจารณาเนื่องจากถือว่าเป็นพ.ร.บ.เกี่ยวข้องทางการเงิน