ศธ.เตรียมจัดอับดับปัญหาหนี้ครู  หวังแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

ศธ.เตรียมจัดอับดับปัญหาหนี้ครู  หวังแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

รมว.ศธ. ปิ๊งโมเดลแก้ปัญหาหนี้ครูของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี  เตรียมประมวลเหตุครูก่อหนี้ พร้อมเตรียมจัดอันดับหวังแก้ไขได้ตรงจุด 

วันนี้ (28 ก.พ. 65) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการดูงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี จำกัด ว่า รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ปีนี้เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน และมีการบูรณาการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากร ทางการศึกษาได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ เพื่อทุกครัวเรือนมีชีวิตความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้น

สหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี เป็นหนึ่งใน 70 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบที่เข้าร่วมแก้ไขหนี้สินครูฯด้วยแนวทางการช่วยเหลือสมาชิกที่หลากหลาย อาทิ การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง เพื่อช่วยเหลือสมาชิกสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 4.90 ต่อปี ถือเป็น 1 ในสหกรณ์ 10 แห่งที่ได้ลดดอกเบี้ยลงจนเหลือต่ำกว่าร้อยละ 5


 

อีกทั้ง เป็นสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งไม่ได้กู้ยืมเงินที่อื่นมาดำเนินการ และมีการปรับโครงสร้างหนี้หรือรวมหนี้ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่มีเงินเดือนติดลบ ให้มีเงินเดือนคงเหลือใช้จ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ซึ่งเป็นเป้าหมายพื้นฐานหลักของนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการเห็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิต

ลดข้อกังวลในการดำเนินชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้คุณครูสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ  โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาการเรียนการสอนและมีผลต่อเด็กและเยาวชนของเรา ที่จะเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป


รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินครู หรือ สถานีแก้หนี้ครูขึ้น 2 ระดับ คือ ระดับจังหวัด และระดับเขตพื้นที่  รวมทั้งเปิดรับลงทะเบียนครูที่ต้องการเข้ารับการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 20,000 รายโดยยังคงเปิดรับการลงทะเบียนไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดปิด อย่างไรก็ตามเมื่อครบการเปิดลงทะเบียน 1 เดือนในวันที่ 15 มีนาคมนี้จะมีการประมวลผลว่าครูมีปัญหาเรื่องใดมากที่สุด เพื่อจัดลำดับการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

“ การดำเนินการเพื่อช่วยเหลือครู และบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบในครั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภายในของกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการเงินต่างๆ
และที่ขาดไม่ได้ คือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่จะเป็นกลไกสำคัญของการแก้หนี้ครู
ให้ประสบความความสำเร็จ วันนี้ดิฉันได้เห็นโมเดลต่างๆที่เป็นประโยชน์ และจะนำรูปแบบที่เหมาะสมไปปรับใช้กับสหกรณ์อื่นๆ “ น.ส.ตรีนุช กล่าว.