กรมอนามัย แนะหลัก 3 x 5 รับมือ "พายุฤดูร้อน" ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน

กรมอนามัย แนะหลัก 3 x 5 รับมือ "พายุฤดูร้อน" ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน

"กรมอนามัย" กระทรวงสาธารณสุข แนะหลัก 3 x 5 เตรียมรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก พร้อมการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัยของตนเอง และครอบครัว

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูล กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ในช่วงวันที่ 6 - 8 มีนาคม 2565 พบมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้มีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคใต้ ที่อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก "น้ำท่วมฉับพลัน" และ "น้ำป่าไหลหลาก" ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จึงต้องดูแลสุขภาพและเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ด้วยหลัก 3 x 5

 

เตรียมพร้อม 3 ขั้นตอน รับมือพายุฤดูร้อน

 

เริ่มจากเตรียมความพร้อมรับมือ พายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย

 

1) ติดตามสถานการณ์การเกิดพายุฤดูร้อน และฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และให้รับฟังการแจ้งเตือนภัย การสื่อสารความเสี่ยงจากหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

 

2) เฝ้าระวังทางสุขภาพของกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพ ในครอบครัว เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหวโดยสังเกตอาการป่วย

 

3) เตรียมจัดเก็บบรรจุยาสามัญประจำบ้าน ยาที่ต้องใช้เป็นประจำ และอุปกรณ์ช่วยพยุงตัวอื่น ๆ ให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อรองรับหากมีการแจ้งให้อพยพจากพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรง

 

กรมอนามัย แนะหลัก 3 x 5 รับมือ \"พายุฤดูร้อน\" ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน

5 ขั้นตอน ดูแลความปลอดภัยในครอบครัว

 

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า เมื่อเกิดเหตุในพื้นที่ให้ดูแลสุขภาพ ความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว 5 ขั้นตอน คือ

 

1) หากเกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและเกิดเหตุภายในบ้านเรือน ให้รีบยกสะพานไฟภายในบ้านลง เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล หากมีการแจ้งให้อพยพ ให้รับเคลื่อนย้ายออกจากบ้าน ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งโดยเร่งด่วน

 

2) หลีกเลี่ยงการออกไปนอกตัวอาคารบ้านเรือน อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเกิดฝนตก ฟ้าคะนอง หรือฟ้าผ่าเพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตจากฟ้าผ่า

 

3) หลีกเลี่ยงการเล่น หรือสัมผัสน้ำเน่าขัง อาจส่งผลให้เชื้อโรคอาจเข้าตา ปาก จมูก และบาดแผลอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงตายได้ หากจำเป็นต้องสัมผัสน้ำเน่าเสียจากน้ำท่วมขังยาวนาน ต้องสวมรองเท้ายางหรือชุดป้องกันน้ำท่วม และหลังสัมผัสน้ำเน่าเสียต้องล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที

4) ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลโดยหมั่นล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการกินอาหารค้างคืน หรืออาหารที่มีกลิ่นและรสชาติที่ผิดไปจากปกติ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อ   เช่น โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โรคอาหารเป็นพิษ เป็นต้น และอย่าทิ้งขยะ อุจจาระ เศษอาหาร ลงในน้ำ ให้ใส่ถุงดำ มัดปากถุงให้แน่น

 

5) ตรวจตรา และหมั่นสังเกต เฝ้าระวังสัตว์มีพิษและแมลงนำโรค ที่มากับกรณีการเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง รวมทั้งแมลงก้นกระดก ที่อาจส่งผลทำให้เกิดอันตราย เจ็บป่วยและเสียชีวิต

 

"ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน หากมีการอพยพไปในศูนย์อพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้ป้องกันตนเอง และเคร่งครัดการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากตลอดเวลา” อธิบดี กรมอนามัย กล่าว