อย่าหาทำ! 4 วิธี "ลดน้ำหนัก" ลวงโลก อย. ชี้ไม่ได้ผลและเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง

อย่าหาทำ! 4 วิธี "ลดน้ำหนัก" ลวงโลก อย. ชี้ไม่ได้ผลและเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง

อยาก "ลดน้ำหนัก" ทั้งที ต้องทำให้ถูกวิธี อย่าหลงเชื่อคำอวดอ้างเกินจริง เมื่อ อย. ตรวจสอบพบวิธีการลดน้ำหนัก 4 สูตรที่ถูกแชร์รัวๆ จนเป็นกระแสในโลกโซเชียล แต่กลับไม่ช่วยลดน้ำหนักได้จริง อีกทั้งไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้อง

เมื่อวันสำคัญอย่าง "วันอ้วนโลก" ซึ่งตรงกับวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้จุดกระแสให้หนุ่มสาวยุคใหม่หลายคนที่มีปัญหา "อ้วนลงพุง" หรือน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน อยากกลับมาฟิตหุ่น "ลดน้ำหนัก" เพื่อรูปร่างที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องทำให้ถูกวิธีจึงจะได้ผลจริง 

หากพบเจอวิธีการลดน้ำหนักแแปลกๆ ที่มีการแชร์ต่อกันมาในโลกโซเชียล อย่าเพิ่งรีบทำตาม โดยเฉพาะการนำเสนอเครื่องดื่มสมุนไพรสูตรต่างๆ ที่อวดอ้างเกินจริง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้ผลตามที่อ้าง

โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชนว่ามีการตรวจพบการแชร์ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับ "วิธีลดน้ำหนัก" ในโลกโซเชียล ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งไม่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริง โดย มี 4 สูตรที่พบว่าเป็นข้อมูลหลอกลวง ดังนี้

 

1. ดื่มน้ำต้มมะนาวลดความอ้วน 

อันที่จริงสูตรนี้สามารถกินได้ ไม่เป็นอันตราย แต่จะไม่ได้ผลลัพธ์ในการ "ลดน้ำหนัก" ตามที่อวดอ้าง เนื่องจาก “น้ำต้มมะนาวไม่สามารถลดความอ้วนได้” ไม่มีข้อมูลวิจัยหรือผลการศึกษาในเชิงวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่าน้ำมะนาวต้มจะช่วยสลายไขมันหรือช่วยลดน้ำหนักได้

โดยประโยชน์หลักๆ ของมะนาว คือ มีวิตามินซีสูง และมีสรรพคุณทางยาช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ และช่วยการขับถ่าย แต่หากกินมากเกินไปอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ที่สำคัญ เมื่อนำไปต้มและโดนความร้อน วิตามินซีจะหายไปถึง 80%

2. ดื่มน้ำมะนาว น้ำผึ้ง ขิง ว่านหางจระเข้ ช่วยละลายไขมัน ลดหน้าท้อง

สูตรนี้ดูเหมือนจะมีสมุนไพรหลายชนิดซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีผลทำให้ช่วยลดน้ำหนักได้ โดยสมุนไพรแต่ละชนิดดังกล่าว มีสรรพคุณที่แตกต่างกัน คือ

  • มะนาว ช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ 
  • น้ำผึ้ง มีส่วนประกอบหลักคือ น้ำตาล ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน 
  • ขิง ใช้ขับลม แก้อาเจียน 
  • ว่านหางจระเข้ ใช้วุ้นจากใบว่านหางจระเข้รักษาแผลสด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

จะเห็นได้ว่าสมุนไพรสูตรนี้ไม่มีสรรพคุณในการช่วยลดไขมันหรือสลายไขมันเลย ดังนั้นสูตรนี้จึงไม่สามารถลดน้ำหนักได้ 

3. ดื่มน้ำกระชาย น้ำผึ้ง มะนาว ช่วยลดน้ำหนัก

สำหรับสูตรนี้มีสมุนไพรอย่าง "กระชาย" เพิ่มเข้ามา ซึ่งมีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้จุกเสียด และมะนาวมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ส่วนน้ำผึ้งมีส่วนประกอบหลักคือ น้ำตาล ยิ่งกินมากก็ยิ่งอ้วนได้ ดังนั้น สรุปได้ว่า ดื่มน้ำกระชายผสมน้ำผึ้งมะนาว ก็ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้เช่นกัน

4. ดื่มน้ำขิงผสมน้ำผึ้ง ช่วยลดน้ำหนัก

สูตรนี้ก็เป็นอีกสูตรหนึ่งที่มีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม ซึ่งน้ำผึ้งมีส่วนประกอบหลักคือ น้ำตาล ที่ยิ่งกินก็จะยิ่งอ้วน ส่วนขิงใช้ขับลม แก้อาเจียน ดังนั้น การดื่มน้ำขิงผสมน้ำผึ้ง จึงไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก แต่กลับจะทำให้อ้วนขึ้นกว่าเดิมได้

ทั้งนี้ อย. แนะนำว่าหากต้องการลดน้ำหนักให้ได้ผลจริง สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีเครื่องดื่มตัวช่วยใดๆ เพียงแต่ต้องใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์  และออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญให้สลายไขมันสะสมได้ตามธรรมชาติ หรือทำตาม 4 ข้อต่อไปนี้

1. ควบคุมอาหาร : ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลงในแต่ละมื้อ ลดมื้อหนักๆ ให้น้อยลง เช่น บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง, บุฟเฟ่ต์ชาบู และงดข้าวขาวขัดสี ควรหันมากินข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และธัญพืชต่างๆ แทน

2. เลือกรับประทานผักและผลไม้ : เน้นกินผักสด ผักต้ม และผลไม้หลากหลายชนิด ให้มากขึ้นในแต่ละมื้อ ผักผลไม้ช่วยให้อิ่มนาน ไม่หิวบ่อย มีไฟเบอร์สูงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี

3. เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง : งดของทอด งดเนื้อสัตว์ที่ติดมันมากๆ ลดของหวาน/เครื่องดื่มน้ำตาลสูง เน้นอาหารที่ให้โปรตีนสูงไขมันต่ำ 

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : อย่างน้อยวันละ 30 นาที ทำให้ได้ทุกๆ วัน ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี สลายไขมันสะสมได้จริง และทำให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานเป็นปกติ ส่งผลให้อารมณ์ดีและลดความเครียดได้

-----------------------------------

อ้างอิง : สำนักงานอาหารและยา (อย.) , สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข