ศบค. เผย 10 จ. ป่วยโควิด "ปอดอักเสบ" รักษาตัวใน รพ. สูงสุด
ศบค. รายงาน "สถานการณ์โควิด-19" พบผู้ป่วยรายใหม่ 23,584 ราย "เสียชีวิต" เพิ่ม 66 ราย เผย 10 อันดับ "ปอดอักเสบ" รักษาใน รพ. ในจำนวนนี้ ครองเตียงระดับ 2-3 เกิน 50% ได้แก่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และชลบุรี จำนวนการฉีด "วัคซีนโควิด-19" ของไทย สะสม 126 ล้านโดส ฉีดเข็ม 3 ครอบคลุม 31.2%
วันนี้ (13 มี.ค. 65) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ "ศบค." รายงาน "สถานการณ์โควิด-19" ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,584 ราย แบ่งเป็น
- ติดเชื้อในประเทศ 23,417 ราย
- ติดเชื้อจากต่างประเทศ 67 ราย
- จากเรือนจำ 100 ราย
- เสียชีวิตเพิ่ม 66 ราย
ติดเชื้อสะสม 3,184,825 ราย เสียชีวิตสะสม 23,709 ราย รักษาตัวอยู่ 227,336 ราย อาการหนัก 1,319 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 438 ราย หายป่วยเพิ่ม 22,233 ราย หายป่วยสะสม 2,933,780 ราย
เสียชีวิต 97% เป็นผู้สุงวัย-โรคเรื้อรัง
สำหรับ ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 66 ราย เป็นชาย 40 ราย หญิง 26 ราย โดยเป็นชาวไทย 64 ราย อังกฤษ 1 ราย เมียนมา 1 ราย ค่ากลางอายุ 75 ปี (4 เดือน - 97 ปี) ค่ากลางตั้งแต่วันพบเชื้อ จนถึงเสียชีวิต 5 วัน (0-31 วัน) พบเชื้อวันเสียชีวิต 5 ราย
ทั้งนี้ จากจำนวน 66 รายที่เสียชีวิต พบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 55 ราย คิดเป็น 83% และกลุ่มโรคเรื้อรัง 9 ราย คิดเป็น 14% รวมทั้งสองกลุ่มเป็นสัดส่วนกว่า 97% ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด ครอบครัว และอาศัยในพื้นที่ระบาด
10 อันดับ "ปอดอักเสบ" รักษาใน รพ.
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ปอดอักเสบ กำลังรักษาใน รพ. จำนวน 10 อันดับแรก ได้แก่
- กทม. ผู้ป่วยปอดอักเสบ 197 ราย อัตราครองเตียง 33.70%
- สมุทรปราการ ผู้ป่วยปอดอักเสบ 85 ราย อัตราครองเตียง 45.30%
- นครศรีธรรมราช ผู้ป่วยปอดอักเสบ 57 ราย อัตราครองเตียง 15.20%
- นนทบุรี ผู้ป่วยปอดอักเสบ 46 ราย อัตราครองเตียง 45.90%
- ภูเก็ต ผู้ป่วยปอดอักเสบ 45 ราย อัตราครองเตียง 63.70%
- นครราชสีมา ผู้ป่วยปอดอักเสบ 45 ราย อัตราครองเตียง 15.70%
- สุราษฎร์ธานี ผู้ป่วยปอดอักเสบ 43 ราย อัตราครองเตียง 50.00%
- ชลบุรี ผู้ป่วยปอดอักเสบ 36 ราย อัตราครองเตียง 50.90%
- อุตรดิตถ์ ผู้ป่วยปอดอักเสบ 33 ราย อัตราครองเตียง 20.70%
- เชียงใหม่ ผู้ป่วยปอดอักเสบ 33 ราย อัตราครองเตียง 16.50%
ไทยฉีด "วัคซีนโควิด-19" สะสม 126 ล้านโดส
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 12 มี.ค. 2565) รวม 126,087,224 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 54,386,322 ราย (78.2%)
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 49,984,694 ราย (71.9%)
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 21,716,208 ราย (31.2%)
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 12 มีนาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 224,331 โดส
- เข็มที่ 1 : 87,257 ราย
- เข็มที่ 2 : 19,565 ราย
- เข็มที่ 3 : 117,509 ราย
สูงวัยฉีดเข็ม 3 แล้ว 31.9%
ผลการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมายหลัก มีนาคม 2565 ในกลุ่มสูงวัย 60 ปีขึ้นไป และ เด็ก 5-11 ปี มีดังนี้
สูงวัย 60 ปีขึ้นไป เป้าหมาย 12,704,543 ราย
- เข็ม 1 ครอบคลุม 83.3%
- เข็ม 2 ครอบคลุม 78.8%
- เข็ม 3 ครอบคลุม 31.9%
อายุ 5-11 ปี เป้าหมาย 5,150,02 ราย
- เข็ม 1 ครอบคลุม 25.8%
- เข็ม 2 ครอบคลุม 0.4%
เข้าไทย มี.ค. ติดเชื้อสะสม 912 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ ตั้งแต่ 1 - 12 มี.ค. เข้าประเทศไทยสะสม 100,766 ราย ติดเชื้อ 912 ราย คิดเป็น 0.91% แบ่งเป็น
- ระบบ Test & Go เข้าไทย 86,877 ราย ติดเชื้อ 590 ราย
- ระบบแซนด์บ็อกซ์ เข้าไทย 12,097 ราย ติดเชื้อ 280 ราย
- ระบบกักตัว เข้าไทย 1,792 ราย ติดเชื้อ 42 ราย
ทั่วโลกติดเชื้อรายใหม่ 1.4 ล้านราย
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 457,183,829 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,421,056 ราย
อาการรุนแรง 65,739 ราย
รักษาหายแล้ว 390,399,848 ราย
เสียชีวิต 6,062,621 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 81,169,534 ราย
2. อินเดีย จำนวน 42,989,398 ราย
3. บราซิล จำนวน 29,350,379 ราย
4. ฝรั่งเศส จำนวน 23,453,722 ราย
5. สหราชอาณาจักร จำนวน 19,530,485 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 33 จำนวน 3,184,825 ราย