กว่า 2 ล้านคนเสี่ยงสูง! "สงกรานต์2565" ติดโควิด รุนแรง-เสียชีวิต
แม้ว่าอาการโควิดโอมิครอน มากกว่า 90 % จะเป็นไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย แต่คนไทยยังมีอีกกว่า 2 ล้านคนที่เสี่ยงสูง หากมีการติดเชื้อแล้วจะอาการรุนแรงและเสียชีวิต โดยเฉพาะช่วง "สงกรานต์2565" ที่จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง!!
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ระบุว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่มที่มีการรายงานในแต่ละวันนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด19 หรือรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์
ทั้งนี้ อัตราป่วยตายโควิด จะเพิ่มสูงขึ้นมากในกลุ่มอายุที่สูงมากขึ้น
- กลุ่มอายุ 1-50 ปี อัตราป่วยตายต่ำกว่า 0.1 %
- กลุ่มอายุ 50-60 ปี อัตราป่วยตาย0.3%
- กลุ่มอายุ 70 ปีขึ้นไป อัตราป่วยตาย7.5 %
เพราะฉะนั้นจึงต้องพยายามเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่ม608 ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต
สูงวัย 2 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด
ทว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ดูเหมือนโอมิครอนจะพุ่งเป้าโจมตีนั้น ข้อมูลถึงวันที่ 17 มี.ค.2565
ยังมีผู้สูงอายุไม่ได้รับวัคซีนโควิด19 แม้แต่เข็มเดียว กลับมีถึง 2.2 ล้านคน จากจำนวนผู้สูงอายุทั้งสิ้น 12.7 ล้านคน
ได้ฉีดเข็ม 1 เข็มราว 10.5 ล้านคน คิดเป็น 83.3 %
ได้ฉีดเข็ม 2 เข็มราว 10 ล้านคน คิดเป็น 78.9 %
ได้ฉีดเข็ม 3 กระตุ้นแล้วราว 4.1 ล้านคน คิดเป็น 32.5 %
ทั้งที่ มีข้อมูลชัดเจนว่า ผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีน โอกาสเสียชีวิตน้อยกว่า ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน และผู้ที่ได้ฉีดเข็ม3 โอกาสเสียชีวิตน้อยกว่า ได้รับเพียง 2 เข็ม ข้อมูล 1ม.ค.-18 ก.พ.2565 พบว่า
- กลุ่มไม่ได้รับวัคซีน จำนวนเสียชีวิต 387 คน อัตราเสียชีวิตต่อล้านคน 178
- กลุ่มได้รับวัคซีน 1 เข็ม จำนวนเสียชีวิต 66 คน อัตราเสียชีวิตต่อล้านคน 112
- กลุ่มได้รับวัคซีน 2 เข็ม จำนวนเสียชีวิต 197 คน อัตราเสียชีวิตต่อล้านคน 32 เสียชีวิตลดลง 6 เท่า
- กลุ่มได้รับวัคซีน 3 เข็ม จำนวนเสียชีวิต 16 คน อัตราเสียชีวิตต่อล้านคน 4 เสียชีวิตลดลง 41 เท่า
เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น 3 ล้านโดส ก่อนสงกรานต์ 2565
เพราะฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการฉีดเข็ม 3 ให้ผู้สูงอายุ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2565 ศบค.รับทราบแผนการเร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็ม3กระตุ้นในผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2565 โดยวัคซีนที่ต้องฉีดวัคซีนเพิ่มทั่วประเทศ จำนวน 3 ล้านโดส ในระยะเวลาก่อนเทศกาลสงกรานต์ มีเป้าหมายแต่ละจังหวัด ผู้สูงอายุที่ถึงกำหนดการฉีดเข็ม3 กระตุ้น ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70 %
“ผู้สูงอายุอาจจะกลัว กังวลเรื่องของผลข้างเคียง จึงจะมอบเป็นนโยบายให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ด้วยไฟเซอร์ ในปริมาณ ครึ่งโดสให้กับผู้สูงอายุ รวมถึง ในการกระตุ้นเข็ม 4 กับกลุ่มทั่วไปที่ถึงกำหนดด้วย เนื่องจากข้อมูลทางวิชาการระบุว่าช่วยลดผลข้างเคียง และภูมิคุ้มกันขึ้นได้ดี แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ทั้งนี้ จะมีการจัดสัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 หรือSAVE 608 ระหว่างวันที่ 21-30 มี.ค.2565”นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)กล่าว
แผนการเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ผู้สูงอายุ
1.การบริการฉีดวัคซีน
- จัดหน่วยบริการให้ประชาชนเข้าถึงการบริการได้โดยสะดวก ทั้งในสถานพยาบาลและออกหน่วยเคลื่อนที่เชิงรุก
- บูรณาการการค้นหาประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายทุกจังหวัด/กรุงเทพฯ
-บูรณาการความร่วมมมือการระดมการฉีดวัคซีน โดยกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน สภาอุตสาหกรรมและภาคเอกชน
2.เร่งประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้/ความเข้าใจกับประชาชน
- บูรณาการร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และหน่วยงานสื่อประชาสัมพันธ์หลักต่างๆ
- จัดงานรณรงค์การฉีดวัคซีนโควิด19 เข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุเพื่อให้ประชาชนรับรู้เป็นวงกว้าง