คพ.ผนึกTEI ส่งเสริมธุรกิจสีเขียว หนุนผู้บริโภคใช้สินค้าฉลากเขียว
โลกใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนนับล้าน คนเพียงหนึ่งคนใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ เพราะหากทุกคนช่วยกันการจะช่วยลดภาวะโลกร้อนก็สามารถมาทำได้
เนื่องจากต้นตอของปัญหาอาจจะอยู่ในมือของทุกคน ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้คำนึงถึงการก่อมลภาวะที่เป็นพิษ มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change) และสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (22 มี.ค. 2565) กรมควบคุมมลพิษ และมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้ร่วมลงนามบันทึก MOU ในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ มติครม.ที่ 22 ม.ค.2551 เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐ จัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมควบคุมมลพิษ
ได้มีการดำเนินการตามมติดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้ดำเนินงานขยายไปยังองค์กรมหาชน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานของรัฐ
- หนุนสินค้าและบริการรับรองฉลากเขียว -ขึ้นทะเบียนตะกร้าเขียว
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ ได้ร่วมกับกรมบัญชีกลาง ออกกำหนดข้อกำหนด กฎระเบียบ การจัดซื้อจัดจ้างสินค้า พัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการขับเคลื่อนการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนที่ คพ. มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนหันมาให้ความสนใจ
รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือตะกร้าเขียวที่กรมควบคุมมลพิษ ได้ดำเนินการขึ้น เพื่อสร้างสังคมการบริโภคอย่างยั่งยืน
เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ คพ. มีส่วนสนับสนุนให้เกิดเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ตามนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566 - 2570)
ทส. โดย คพ. ได้เสนอให้กระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2563 กำหนดให้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ คพ. เป็นพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
คพ.ได้พิจารณาเห็นควรให้สินค้าและบริการที่ได้รับการรับรองฉลากเขียวและขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ตะกร้าเขียว) ได้รับการบรรจุในบัญชีรายชื่อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดังกล่าวเป็นลำดับแรก
- สินค้า-บริการตะกร้าเขียว ลดปัญหาโลกร้อน
“ปัจจุบันมีบัญชีรายชื่อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แล้วประมาณ 100 กว่ารายการ แต่ทั้งนี้ก็ถือว่ายังน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับการใช้สินค้าและบริการทั้งหมด ซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดที่ก่อให้เกิดมลพิษทั้งสิ้น ถ้ากระบวนการอยู่กรอบภายใต้การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปลดปล่อยมลพิษจะดีขึ้น" นายอรรถพล กล่าว
อีกทั้ง เป็นเรื่องสำคัญและตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาล และทส. ที่ให้ความสำคัญและนายกรัฐมนตรีที่มีเจตจำนง ในCOP 26 ลดคาร์บอนเป็นศูนย์ เชื่อว่าทำให้มีบัญชีรายชื่อสินค้าและบริการมากกว่า 100 แห่ง
ทั้งนี้ สำหรับตะกร้าเขียว คือ รายการข้อมูลสินค้าและบริการที่ได้รับรองตามเกณฑ์ข้อกำหนดสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ของกรมควบคุมมลพิษ
โดยคุณสมบัติของตะกร้าเขียว
- คุณสมบัติ/ประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานกำหนด
- ใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย
- มีระบบขนส่งและจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพสูง
- ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง
- ใช้วัสดุน้อย
- ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในช่วงการใช้งาน
- คุ้มค่า คงทน
- มีการจัดการหลังหมดอายุการใช้งาน
- โอกาสทางการตลาดสำหรับธุรกิจสีเขียว
นายวิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยมีความตื่นตัวในเรื่องสิ่งแวดล้อม รับรู้ความรุนแรงของปัญหาและผลกระทบที่ตามมามากยิ่งขึ้น ประชาชนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นโอกาสทางการตลาดสำหรับธุรกิจที่ต้องการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค
สำหรับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินงานฉลากเขียวที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2536 พร้อมจะร่วมมือในการพัฒนาบัญชีรายชื่อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ คพ. และการดำเนินงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการผลักดันให้การส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของภาครัฐให้เกิดผลสัมฤทธิ์
โดยความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นร่วมกันในการบูรณาการงานด้านการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ
จะช่วยขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนของประเทศ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของประชาคมโลก และเป้าหมายการพัฒนาของประเทศ
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD) เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536
โดยได้รับความเห็นชอบและความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ปฏิบัติออกมาเป็นรูปธรรม จึงนับว่าเป็นฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยที่เกิดจากการร่วมมือระหว่างส่วนราชการ และองค์กรกลางต่าง ๆ โดยมีสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยทำหน้าที่เป็นเลขานุการ
- แนะผู้บริโภคใช้สินค้าและบริการฉลากเขียว
ฉลากเขียวเกิดขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานอิสระที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่มีความเป็นกลาง เชื่อถือได้ ตลอดจนดูแลควบคุมคุณภาพทางสิ่งแวดล้อม
โดยส่งเสริมให้เกิดความตระหนักและป้องกันมลพิษที่อาจเกิดขึ้นตลอดทั้งวัฎจักรชีวิต อย่างเป็นระบบและโปร่งใส เนื่องจาก สินค้าสีเขียว ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดในปัจจุบันเกิดจากการประชาสัมพันธ์ของผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายโดยอิสระเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฉลากเขียว ที่ทางสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ พิจารณามองตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงกระบวนการจัดการ สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่รวบรวมในสิ่งที่เราจัดซื้อ เป็นการลดภาระของรัฐบาล ในการลดของเสีย การจัดการสิ่งแวดล้อมในการใช้เศรษฐกิจสีเขียว