"โควิดวันนี้" ชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 1,448 ราย - ATK อีก 4,752 ราย ตาย 3 ราย
"โควิดวันนี้" ชลบุรียังพุ่งต่อเนื่อง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1,448 ราย ไม่รวม ATK อีก 4,752 ราย พบผู้ป่วยปอดอักเสบรายใหม่ 2 ราย เสียชีวิต 3 ราย
"โควิดวันนี้" 4 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1,448 ราย (ผู้ติดเชื้อยืนยัน RT-PCR)
1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 94 ราย สะสม 4,992 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,481 ราย
2. CLUSTER บริษัท ไทย เอ็นโอเค จำกัด อ.เมืองชลบุรี 10 ราย สะสม 116 ราย
3. CLUSTER บริษัท อาร์เอ็มเอส ควอลิตี้ จำกัด สาขาแหลมฉบัง อ.ศรีราชา 6 ราย สะสม 10 ราย
4. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 29 ราย
5. บุคลากรทางการแพทย์ 27 ราย
6. ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 3 ราย ดังนี้
6.1 จังหวัดสงขลา 2 ราย
6.2 จังหวัดเชียงราย 1 ราย
7. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
7.1 ในครอบครัว 275 ราย
7.2 จากสถานที่ทำงาน 58 ราย
7.3 บุคคลใกล้ชิด 68 ราย
7.4 ร่วมวงสังสรรค์ 3 ราย
8. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 40 ราย
9. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 835 ราย
ณ วันที่ 4 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 953,606 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 1,653 คน (อัตราป่วย 173.34 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 1 ราย (0.10 ต่อแสนประชากร) ใส่ท่อหายใจ 1 ราย (0.11 ต่อแสนประชากร) ปอดอักเสบ 5 ราย (0.52 ต่อแสนประชากร)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,908,247 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 1,417 คน (อัตราป่วย 74.26 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 4 ราย (0.21 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 3 ราย (0.16 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 2 ราย (0.10 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 143,166 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 277,660 คน รวม 420,826 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 2,537 คน (อัตราป่วย 602.86 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 10 ราย (2.38 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 4 ราย (0.95 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 5 ราย (1.19 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 1 ราย (พบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565), ผู้ป่วยปอดอักเสบรายใหม่ 2 ราย (ไม่พบประวัติการรับวัคซีนทั้งสองราย), ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 54 ปี, รายที่สองอายุ 81 ปี, รายที่สามอายุ 77 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
(รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2565, รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 22 กพ. 2564, รายที่สามไม่พบประวัติการรับวัคซีน)
ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น
1 ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK
2 เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว
3 ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
4 สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน