"โควิดวันนี้" ชลบุรีเสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย ยอดติดเชื้อรวม ATK 3,610 ราย
"โควิดวันนี้" (16 เม.ย.2565) สถานการณ์ โควิด-19 จ.ชลบุรี มีรายงานผู้ติดเชื้อรวม ATK 3,610 ราย รายงานเสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย
"โควิดวันนี้" (16 เม.ย.2565) สถานการณ์ โควิด-19 จ.ชลบุรี มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 765 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,845 ราย มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 205 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยอด โควิด-19 วันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 18,892 ราย ตาย 125 ราย
"โควิดวันนี้" 16 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 765 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,845 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย
1.คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 47 ราย สะสม 5,961 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,691 ราย
2.อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 33 ราย
3.บุคลากรทางการแพทย์ 21 ราย
4.ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 7 ราย ประกอบด้วย กทม. 2 ราย , อุดรธานี 1 ราย , ฉะเชิงเทรา 1 ราย , พระนครศรีอยุธยา 1 ราย , สมุทรปราการ 1 ราย และสุโขทัย 1 ราย
5.สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
- ในครอบครัว 213 ราย
- จากสถานที่ทำงาน 68 ราย
- บุคคลใกล้ชิด 45 ราย
6.สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 20 ราย
7.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 311 ราย
ณ วันที่ 16 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 978,012 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 6,526 คน (อัตราป่วย 667.27 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 5 ราย (0.51 ต่อแสนประชากร) ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (0.51 ต่อแสนประชากร) ปอดอักเสบ 15 ราย (1.53 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,914,850 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 4,859 คน (อัตราป่วย 253.75 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 17 ราย (0.89 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 21 ราย (1.10 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 21 ราย (1.10 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 144,236 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 269,987 คน รวม 414,223 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 7,121 คน (อัตราป่วย 1719.12 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 41 ราย (9.90 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 26 ราย (6.28 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 41 ราย (9.90 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยปอดอักเสบรายใหม่ 1 ราย
- พบประวัติการรับวัคซีน 1 เข็มเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2565
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 7 ราย
- รายที่ 1 อายุ 48 ปี
- รายที่ 2 อายุ 70 ปี
- รายที่ 3 อายุ 29 ปี
- รายที่ 4 อายุ 60 ปี
- รายที่ 5 อายุ 64 ปี
- รายที่ 6 อายุ 88 ปี
- รายที่ 7 อายุ 80 ปี
สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอด
- รายที่ 1 พบประวัติการรับวัคซีน 3 เข็มเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2565
- รายที่ 2 พบประวัติการรับวัคซีน 2 เข็มเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2564
- รายที่ 3 พบประวัติการรับวัคซีน 1 เข็มเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2565
- อีก 4 รายไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่ 3 จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ้นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น
1.ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK
2.เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว
3.ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
4.สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
ที่มา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี