ผ่าแผนโต ‘เอสเอพี' ประเทศไทย’ ดัน ‘คลาวด์’ เจาะธุรกิจรัฐ-เอกชน
เอสเอพี ประเทศไทย ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์โซลูชั่นสำหรับองค์กร ประกาศแผนธุรกิจลุยกลยุทธ์ ‘คลาวด์ยืนหนึ่ง’ (Cloud Only Strategy) ย้ำผู้นำบริการโซลูชั่นคลาวด์ เร่งหนุนองค์กรธุรกิจ ภาครัฐ ปรับกระบวนการทำงาน
ชูแนวคิด ‘Intelligent, Sustainable Enterprise’ ขับเคลื่อนความยั่งยืน ตั้งเป้าเติบโตโซลูชั่นบนระบบคลาวด์เฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นสู่ 51% ภายในปี 2568
“เอทูล ทูลิ” กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า บริษัทพร้อมผนึกกำลังพาร์ทเนอร์กว่า 70 ราย เดินแผนเปลี่ยนธุรกิจด้วยระบบคลาวด์ ที่ไม่ใช่เพียงชั่วคราว แต่เพื่อความยั่งยืน โดยใช้แนวคิด ‘Intelligent, Sustainable Enterprise’ คือ วิถีใหม่ของการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือจากการบริหารจัดการอย่างชาญฉลาดและสร้างผลกำไร ต้องตระหนักถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม สังคมและความยั่งยืนไปพร้อมกัน
เปิด 3 บทเรียนโควิด
เขากล่าวว่า ผลพวงจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา เอสเอพี ประเทศไทย มองว่า มี 3 บทเรียนสำคัญที่ภาคธุรกิจ ควรนำเอามาเป็นหลักยึดในการทบทวนกลยุทธ์ รวมถึงเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินงาน เมื่อต้องเผชิญกับภาวะหยุดชะงัก (Disruption) ทางธุรกิจ อันได้แก่ ความยืดหยุ่นในการทำงาน, ความต่อเนื่องทางธุรกิจ และ ความยั่งยืน สร้างการเติบโตด้วยระบบคลาวด์
หลังโควิด-19 คลี่คลาย ไทยจะอยู่ในยุคทองการทำ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น และโซลูชั่นคลาวด์ คือ คำตอบการพลิกโฉมธุรกิจ ข้อมูลจาก การ์ทเนอร์ คาดการใช้จ่ายด้านโซลูชั่นคลาวด์สาธารณะของผู้ใช้งาน End-user ทั่วโลก ปี 2565 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20.4% คิดเป็น 494.7 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ มูลค่าใช้จ่ายบริการคลาวด์ของไทยปีนี้ จะเติบโตเพิ่มขึ้น 36.6% คิดเป็นมูลค่า 40.8 พันล้านบาท
ล่าสุด เอสเอพีประกาศผลประกอบการทั่วโลกไตรมาส 1 ปี 2565 ธุรกิจคลาวด์ ยังเติบโต บริการโซลูชั่นบนระบบคลาวด์ทำรายได้สูงขึ้น
“โควิดเป็นตัวเร่งให้ภาคธุรกิจ ตลอดจนภาครัฐ หันมาให้ความสำคัญกับการทำ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น และการใช้งานโซลูชั่นบนระบบคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปูทางสู่ความยั่งยืน ยกระดับการทำงานท่ามกลางความไม่แน่นอน องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องมองหาระบบอีอาร์พีบนคลาวด์ ช่วยเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ วิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ และวางแผนรับมือได้ทันท่วงที”
เดินกลยุทธ์ คลาวด์ยืนหนึ่ง
ขณะที่ ปัจจุบัน ธุรกิจยังสามารถย้ายการใช้งานไปยังระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย พร้อมความสามารถในการปรับขนาดตามการใช้งาน เพื่อลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) สำหรับก้าวต่อไปในการเดินหน้ากลยุทธ์ ‘คลาวด์ยืนหนึ่ง’ (Cloud Only Strategy) นี้ จะผลักดันให้อัตราการเติบโตบริการโซลูชั่นบนระบบคลาวด์เฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นของ เอสเอพี ประเทศไทย สู่ 51% ภายในปี 2568
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญเร่งด่วนของประเทศในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น พร้อมกันนี้ บริษัทต่างๆ ในประเทศไทยควรปรับกระบวนทัศน์การทำธุรกิจ จาก เศรษฐกิจแบบเส้นตรง (Linear Economy) ซึ่งผลิตของเสียมากกว่า 91% ผ่านการผลิตแบบดั้งเดิม มาเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยวิธีการที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่และลดของเสียให้น้อยที่สุด
“กุลวิภา ประดิษฐผลเลิศ” ผู้อำนวยการธุรกิจทั่วไป เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า เอสเอพี เชี่ยวชาญการใช้ประโยชน์จากเรียลไทม์ดาต้า ผสานเข้ากับเทคโนโลยี ที่ผ่านมามีการสนับสนุนลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจค้าปลีก เฮลท์แคร์ เคมีภัณฑ์ อีคอมเมิร์ซ เป็นต้น ผนวกโซลูชั่นครอบคลุมตั้งแต่งานด้าน ซัพพลายเชน ระบบจัดซื้อ บริหารทรัพยากรบุคคล ไปจนถึง โซลูชั่นบริหารประสบการณ์ลูกค้า
“นพดล เจริญทอง” ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจตลาดขนาดกลาง (Mid Market) เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า เอสเอพีมีพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีมากกว่า 70 รายที่คอยให้คำแนะนำและช่วยดำเนินงานตลอดจนติดตั้งระบบ ที่สำคัญลูกค้ากว่า 80% ของ เอสเอพี ทั่วโลกเป็นกลุ่มเอสเอ็มอี แน่นอนว่าในไทยบริษัทได้ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี ให้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงดิจิทัลสู่การเป็น Intelligent, Sustainable Enterprise อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
เน้นปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
ล่าสุด เอสเอพี ประเทศไทย ยังได้ร่วมมือกับ South City Group เริ่มใช้งานโซลูชั่น RISE with SAP ที่เน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน ขณะเดียวกัน บริษัทจะใช้แนวทาง “Chasing Zero” ได้แก่ การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ การสร้างของเสียเป็นศูนย์ และ ผลักดันความไม่เท่าเทียมกันเป็นศูนย์
การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านคลาวด์เทคโนโลยี ถือเป็นพันธกิจสำคัญของ เอสเอพี ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนทางธุรกิจ ตลอดจนความต้องการของลูกค้า
ก่อนหน้านี้ กลุ่มธุรกิจ Mid Market และเอสเอ็มอี อาจมีข้อเสียเปรียบในการเข้าถึงระบบเทคโนโลยีได้น้อยกว่าองค์กรขนาดใหญ่ และเผชิญความท้าทายด้านความผันผวนของแรงงาน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโซลูชั่นคลาวด์ของ เอสเอพี เปิดกว้างให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียมองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยทางเลือกบริการแบบ Subscription และการลงทุนที่น้อยกว่า