LINE ปักธงโซเชียลคอมเมิร์ซ เร่งกลยุทธ์ดันธุรกิจโต 2 เท่า
‘ไลน์’ รุกหนักโซเชียลคอมเมิร์ซ ดันกลยุทธ์หนุนผู้ค้าเติบโตแบบยั่งยืน ชูบริการเทคโนโลยีครบวงจร ช่วยผู้ประกอบการสื่อสาร สร้างเรื่องราว พร้อมปิดการขายได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว
นายเลอทัด ศุภดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า โซเชียลคอมเมิร์ซกลายมาเป็นช่องทางการขายที่มีความสำคัญและมีประสิทธิภาพ สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมนักช้อปชาวไทยได้อย่างดี
เอคเซนเชอร์ คาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั่วโลก จากปี 2564 ที่มีมูลค่าราว 4.92 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อถึงปี 2568 จะเติบโตอีก 2.5 เท่า มูลค่าแตะ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในไทยเองขณะนี้โซเชียลคอมเมิร์ซมีสัดส่วนสูงถึง 61% ของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซและมีแนวโน้มว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวว่า เทรนด์การเติบโตของโซเชียลคอมเมิร์ซขับเคลื่อนโดยการพัฒนาโซเชียลเอนเกจเมนท์ การเล่าเรื่อง และรอยัลตี้ของลูกค้าเนื่องจากที่ผ่านมา 80% ของยอดขายมักมากจากประสบการณ์การซื้อของฐานลูกค้าเดิม
สำหรับไลน์ “ไลน์ชอปปิง (LINE SHOPPING)” นับเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักที่เติบโตเร็ว จุดแข็งของบริษัทมาจากการเป็นช่องทางที่เปิดทางร้านค้าที่ใช้ไลน์ติดต่อลูกค้าอยู่แล้ว มีช่องทางที่ทำได้แบบครบวงจร
ขณะที่ จากนี้จุดที่โฟกัสต้องการเข้าไปพยายามตอบโจทย์คนซื้อและคนขายได้มากขึ้น นอกจากทำให้ร้านเข้ามาใช้ระบบ มุ่งทำให้ผู้บริโภคเกิดการซื้อซ้ำ ไม่มีการเก็บค่าจีพีหรือธรรมเนียมการขาย
ปัจจุบัน ไลน์ชอปปิงมีจำนวนร้านค้ามากกว่า 370,000 ร้าน และมีมูลค่าธุรกรรมรวมในตลาด (Gross Merchandise Value) กว่า 5,300 ล้านบาท เติบโตถึง 97% จากปีที่ผ่านมา ส่วนปี 2565 นี้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้จำนวนร้านค้าจะเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า ยอดขายเติบโต 2 เท่า
ไลน์ ระบุว่า ทิศทางธุรกิจเดินหน้าด้วยวิสัยทัศน์ “LIBERTY TO WIN” มุ่งสร้างความสำเร็จผู้ค้าออนไลน์อย่างยั่งยืน พร้อมปลดล็อกทุกข้อจำกัด เพิ่มโอกาสใหม่ๆ ผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยที่อาจมีข้อจำกัดทางเงินทุนและทรัพยากรมีความแข็งแกร่ง สามารถแข่งขันในสมรภูมิอีคอมเมิร์ซ
โดย ไลน์ชอปปิงมีนโยบายส่งเสริม 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย
1.Empower Partnership Technology สนับสนุนเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการร้าน พร้อมมีความร่วมมือพันธมิตรผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำช่วยให้การบริหารจัดการหลังบ้านสะดวกยิ่งขึ้นจากที่เดียว อีกทั้งยังสามารถทำกิจกรรมการตลาดกับลูกค้าได้โดยตรง
ขณะที่ 2.Empower Shopping Experience ช่วยเพิ่มทราฟฟิกเข้าสู่ร้านค้า โดยการสร้างประสบการณ์การชอปปิงที่สนุกไม่เหมือนใคร ด้วย LINE POINTS โปรแกรมสะสมพอยท์สุดคุ้ม และโปรโมชั่นแคมเปญที่ออกแบบมาอย่างเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
ที่ผ่านมา เทียบกับร้านที่ไม่จัดทำแคมเปญแจกพอยต์ ยอดขายของร้านค้าที่เข้าร่วมสามารถเติบโตโดยสูงกว่า 61% ลูกค้ามีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำ 1.5 เท่า
สุดท้าย 3. Empower Knowledge ส่งเสริมองค์ความรู้และพัฒนาความรู้ให้กับนักขาย ในการขยายธุรกิจด้วยหลากหลายกิจกรรมพัฒนาศักยภาพที่เปิดโอกาสให้ร้านค้าทุกระดับเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ไลน์หวังเข้าไปช่วยปิดเพนพอยต์ของร้านค้าเอสเอ็มอีไทยให้สามารถจัดการการขายได้แบบมืออาชีพและปิดการขายได้ง่ายขึ้น ด้วยระบบจัดการร้านค้าที่เชื่อมต่อผ่านแชท ออกออเดอร์ผ่านแชทได้ทันที อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับระบบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและอีวอลเล็ต
รวมไปถึง เปิดพื้นที่สำหรับการสร้างแบรนด์ดิ้งหรือการเล่าเรื่องราวของร้านค้าให้โดดเด่น ช่วยร้านค้าในการสะสมฐานแฟน เพื่อให้ร้านค้าสามารถออกแบบการสื่อสารได้ตรงกลุ่ม และช่วยให้ร้านค้าสร้างยอดขายได้ด้วยโปรโมชั่นต่อเนื่อง