ย้อนตำนาน 21 ปี "iPod" หลัง "Apple" ประกาศเลิกผลิต
ชวนทำความรู้จัก “iPod” อุปกรณ์ฟังเพลงขนาดพกพา ที่วางจำหน่ายมายาวนานถึง 21 ปี หลังจาก “Apple” ประกาศยุติการผลิต
เมื่อวันอังคาร (10 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ “Apple Inc.” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ของสหรัฐ ประกาศผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า ได้ยุติการผลิต “iPod Touch” ซึ่งถือเป็นสินค้าตัวสุดท้ายในตระกูล “iPod” อุปกรณ์ฟังเพลงแบบพกพา ที่ยังวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ “เกร็ก จอสเวียค” (Greg Joswiak) รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple กล่าวว่า “ดนตรีเป็นส่วนสำคัญที่อยู่กับ Apple มาโดยตลอด ตลอดเวลาที่ผ่านมา iPod ได้ทำให้ผู้ใช้งานหลายร้อยล้านคนได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังเพลงได้ในทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งไม่ใช่เพียงเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมดนตรีเท่านั้น แต่ยังนำเสนอวิธีการฟัง ค้นหาเพลงใหม่ และการแชร์เพลงอีกด้วย”
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ พาย้อนชมพัฒนาการตลอด 21 ปีที่ผ่านมา “iPod” ทั้ง 5 รุ่น ตั้งแต่สมัย “iPod Classic” “iPod Mini” “iPod Nano” “iPod Shuffle” มาจนถึง “iPod Touch” รุ่นสุดท้าย แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร
“iPod” เป็นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา ของ “Apple” เปิดตัวครั้งแรกในปี 2544 ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า “iPod Classic” โดยยอดขายของ iPod ทุกรุ่นตั้งแต่เปิดตัวมาจนถึงปัจจุบัน รวมอยู่ที่ประมาณ 450 ล้านเครื่องทั่วโลก
1. iPod Classic
“iPod Classic” เป็น iPod รุ่นแรกที่ Apple ปล่อยออกมาเมื่อเดือน ต.ค. 2544 พร้อมกับสโลแกน “1,000 เพลงอยู่ในกระเป๋าคุณ” (1,000 songs in your pocket) โดยวิธีการลงเพลงนั้นจะต้องเชื่อมต่อผ่าน iTunes โปรแกรมฟังเพลงและซื้อเพลงของ Apple
ตัวเครื่องนั้น เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหน้าจอขนาดใหญ่อยู่ด้านบน และมีแผงวงกลมอยู่ด้านล่างใช้ในการควบคุม โดยด้านบนจะเป็นปุ่มเมนู ด้านซ้ายจะเป็นการย้อนกลับ หรือเล่นเพลงก่อนหน้า ด้านขวาเป็นการเลื่อนไปทางขวา หรือ เล่นเพลงถัดไป ส่วนข้างล่างเป็นปุ่มหยุดหรือเล่นเพลง ขณะที่ตรงกลางจะเป็นปุ่มกดตกลง
iPod Classic Gen 1
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
นอกจากจะฟังเพลงได้แล้ว ใน iPod ยังมีเกมให้ได้เล่นอีกด้วย เช่น Brick เกมยิงแผ่นหิน Solitaire เกมไพ่ และจุดเด่นอย่าง “iPod Quiz” ที่เป็นสุ่มเพลงจากคลังเพลงของผู้ใช้แล้วให้ทายว่าเป็นเพลงอะไร (ในปัจจุบันก็ยังสามารถเล่นเกมนี้ได้อยู่ โดยเป็นฟังก์ชันที่อยู่ใน Shortcuts เรียกว่า Music Quiz)
iPod Classic ออกมาทั้งสิ้น 6 เจนเนเรชัน ซึ่งในแต่ละเจนเนเรชันก็มีความสามารถที่เพิ่มขึ้น ทั้งขนาด รูปทรง ที่แตกต่างกันออกไป โดยใน Gen 4 เป็นครั้งแรกที่ iPod Classic เป็นจอสี และสามารถใส่รูปภาพและวิดีโอเข้าไปได้
iPod Classic Gen 4
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
ส่วน iPod Classic Gen 6 ที่เป็นรุ่นสุดท้ายนั้นมีความจุสูงสุดถึง 160 กิกะไบต์ จนกระทั่งวันที่ 9 ก.ย. 2557 Apple ได้ประกาศยุติการผลิต iPod Classic และนี่คือรุ่นย่อยทั้งหมดของ iPod Classic
iPod Classic Gen 6
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
- Gen 1 Scroll Wheel เปิดตัวในปี 2544
- Gen 2 Touch Wheel เปิดตัวในปี 2545
- Gen 3 Dock Connector เปิดตัวในปี 2546
- Gen 4 Click Wheel เปิดตัวในปี 2547
- Gen 4 Photo เปิดตัวในปี 2547
- Gen 4 Color Display เปิดตัวในปี 2548
- Gen 5 เปิดตัวในปี 2548
- Gen 6 เปิดตัวในปี 2550
2. iPod Mini
ในเดือนม.ค. 2547 Apple เปิดตัว iPod รุ่นที่ 2 ในชื่อ “iPod Mini” ซึ่งเป็นการปรับดีไซน์มาจาก iPod Classic ให้มีความเล็กลง และมีสีสันที่สดใสให้เลือกหลากหลายเฉดสี ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ จน Walmart ห้างสรรพสินค้าใหญ่ของสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า iPod Mini หมดสต็อก แม้ว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี แต่ iPod Mini นั้นออกมาเพียงแค่ 2 รุ่น คือ Gen 1 (2547) และ Gen 2 (2548) ซึ่งมีอายุการวางจำหน่ายเพียงแค่ 1 ปีกับ 6 เดือนเท่านั้น
iPod Mini Gen 2
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
3. iPod Nano
หลังจาก iPod Mini ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก Apple ก็เปิดตัว iPod รุ่นใหม่โดยใช้ชื่อว่า “iPod Nano” ในปี 2548 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างมากที่สุด โดย Gen 1, 2, และ 4 นั้นมีรูปร่างที่คล้ายกับ iPod Mini
iPod Nano Gen 4
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
ขณะที่ iPod Nano Gen 3 มีรูปร่างคล้ายกับ iPod Classic ส่วน iPod Nano Gen 5 นั้นกลับไปรูปร่างคล้ายกับ iPod Mini แต่มีการเปลี่ยนวัสดุเป็นอะลูมิเนียมขัดเงา (Polished aluminium) และมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น
iPod Nano Gen 3
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
ส่วน iPod Nano Gen 6 เป็น iPod รุ่นแรกที่เป็นหน้าจอแบบสัมผัส (Touch Screen) โดยไม่มีปุ่มกดใด ๆ มีเพียงแค่ปุ่มเปิดปิดเครื่องเท่านั้น ก่อนจะพัฒนามาเป็นหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 2.5 นิ้ว พร้อมกับปุ่มโฮม เหมือนใน iPhone บน iPod Nano Gen 7 ต่อมา Apple Inc. ได้ยกเลิกการผลิต iPod Nano เมื่อ 27 ก.ค. 2560
iPod Nano Gen 7
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
สำหรับลำดับการเปิดตัว iPod Nano ในแต่ละเจนเนเรชัน มีดังนี้
- Gen 1 เปิดตัวในปี 2548
- Gen 2 เปิดตัวในปี 2549
- Gen 3 เปิดตัวในปี 2550
- Gen 4 เปิดตัวในปี 2551
- Gen 5 เปิดตัวในปี 2552
- Gen 6 เปิดตัวในปี 2553
- Gen 7 เปิดตัวในปี 2555
4. iPod Shuffle
“iPod Shuffle” เจนเนเรชันแรก วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2548 โดยมีรูปร่างเป็นแท่งยาว คล้ายกับห่อหมากฝรั่ง ไม่มีหน้าจอ แต่มีแผงปุ่มกดวงกลมเหมือนกับ iPod รุ่นก่อน ๆ และเป็นครั้งแรกของตระกูล iPod ที่เป็นหัวเสียบ USB ในตัว ไม่ต้องใช้สายต่อเชื่อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ แม็ค
iPod Shuffle Gen 1
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
ขณะที่ iPod Shuffle Gen 2 นั้น มีขนาดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีขนาดเล็กลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบเจนเนเรชันแรก โดย Apple เคลมว่าเป็นเครื่องเล่น mp3 ที่เล็กที่สุดในโลก จึงทำให้ iPod รุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้ฟังเพลงขณะออกกำลังกาย
iPod Shuffle Gen 2
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
ถัดมาใน iPod Shuffle Gen 3 กลับไปใช้ดีไซน์แท่งยาวเหมือนใน Gen 1 แต่ที่แตกต่างออกไปคือคราวนี้ไม่มีปุ่มกด มีเพียงแค่ปุ่มเปิดเท่านั้น แต่เป็นครั้งแรกที่มีระบบ VoiceOver โดยด้านหลังตัวเครื่องมีลักษณะเป็นตัวหนีบ ทำให้สามารถนำ iPod ไปเสียบไว้กับเสื้อผ้าได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหล่นหาย
iPod Shuffle Gen 3
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
ส่วน iPod Shuffle Gen 4 นั้นกลับไปใช้ดีไซน์ที่คล้ายกับ Gen 2 และยังเพิ่มฟังก์ชัน VoiceOver ที่เป็นจุดเด่นของ Gen 3 เข้ามาอีกด้วย
iPod Shuffle Gen 4
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
ด้วยเหตุที่ iPod Shuffle ไม่มีหน้าจอ จึงทำให้รองรับได้เพียงแค่ไฟล์เสียง และอีกจุดเด่นของ iPod รุ่นนี้ก็คือมีปุ่มสุ่มเพลงให้สมกับชื่อรุ่น “Shuffle” จากนั้น Apple ได้ยกเลิกการผลิต iPod Shuffle ไปพร้อมกับ iPod Nano เมื่อ 27 ก.ค. 2560 โดยลำดับการวางจำหน่ายสินค้ามีดังนี้
- Gen 1 เปิดตัวในปี 2548
- Gen 2 เปิดตัวในปี 2549
- Gen 3 เปิดตัวในปี 2552
- Gen 4 เปิดตัวในปี 2553
5. iPod Touch
มาถึง iPod รุ่นสุดท้าย นั่นคือ “iPod Touch” เปิดตัวครั้งแรกในปี 2550 โดยมีลักษณะรูปร่างและคุณสมบัติเหมือนกับ iPhone ทุกประการ ทั้งสามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ต เล่นเกม เชื่อมต่อไวไฟ มีกล้องถ่ายรูป รับส่งข้อความก็ยังได้ เพียงแต่ไม่มีช่องใส่ซิมการ์ดเท่านั้น
iPod Touch มีออกมาทั้งสิ้นด้วยกัน 7 เจนเนเรชัน ซึ่งแต่ละเจนเนเรชันนั้นมีลักษณะภายนอกที่ไม่แตกต่างกันมากนัก จะต่างกันที่ความบางของเครื่อง ขนาดของหน้าจอและตัวเครื่อง ปริมาณความจุที่มีให้เลือก และสีของตัวเครื่องเท่านั้น
iPod Touch Gen 7
เครดิตรูป: เว็บไซต์ apple
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน iPod Touch Gen 6 และ 7 แทบจะเหมือนกันทุกประการ iPod Touch ในแต่ละเจนเนเรชันมีการวางจำหน่ายดังนี้
- Gen 1 เปิดตัวในปี 2550
- Gen 2 เปิดตัวในปี 2551
- Gen 3 เปิดตัวในปี 2552
- Gen 4 เปิดตัวในปี 2553
- Gen 5 เปิดตัวในปี 2555
- Gen 6 เปิดตัวในปี 2558
- Gen 7 เปิดตัวในปี 2562
เนื่องด้วยทุกวันนี้ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปไกลทำให้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด Apple สามารถฟังเพลงได้หมดแล้ว iPod ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการฟังเพลง แทบไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป Apple จึงได้ตัดสินใจยุติการผลิต iPod Touch สินค้าตัวสุดท้ายของตระกูล iPod แต่จิตวิญญาณของ iPod จะยังดำรงอยู่ต่อไปในทุกผลิตภัณฑ์ของ Apple ดังส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ที่ระบุว่า
“ทุกวันนี้ จิตวิญญาณของ iPod ยังคงอยู่ เราได้ผสานประสบการณ์ทางดนตรีอันน่าทึ่งในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา ตั้งแต่ iPhone, Apple Watch, HomePod mini, Mac, iPad Apple TV และ Apple Music พร้อมทั้งมอบคุณภาพเสียงระดับระดับดีเยี่ยมด้วยการรองรับเสียงรอบทิศทาง ไม่มีทางใดที่จะดีไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับความเพลิดเพลิน ค้นพบ และสัมผัสประสบการณ์ทางดนตรี”
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ยังอยากเป็นเจ้าของ iPod Touch Gen 7 สินค้ารุ่นสุดท้ายในตระกูล iPod ยังคงมีวางจำหน่ายผ่านช่องทาง Apple Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่อไปจนกว่าสินค้าจะหมด โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 6,900 บาท
ที่มา: Apple (ข้อมูล ณ วันที่ 11 พ.ค. 2565)
กราฟิก: ณัชชา พ่วงพี