ปุจฉา!! คนไทยขาดดุลดิจิทัลปีละเท่าไร? - คาด 2 แสนล้าน ไหลออกต่างประเทศ
กูรูนักคิด ด้านดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ ตั้งคำถาม ไทยเสียดุลการค้าดิจิทัล ปีละเท่าไหร่ ประเมินคนไทยจ่ายให้กับบริการออนไลน์ต่างประเทศสูง 2 แสนล้านบาทต่อปี แนะรัฐเร่งหามาตรการปิดช่องโหว่ เงินไหลออกต่างประเทศ ตัวการฉุดไทยขาดดุลดิจิทัลเพิ่มขึ้น!!
คุณจ่ายเงินให้กับบริการออนไลน์ของบริษัทต่างประเทศเดือนนึงกี่บาททั้ง Apple iCloud, Google, Youtube, Netflix, Spotify และอื่นๆ อีกมาก… ยังไม่รวมเกมออนไลน์ที่เด็กๆ เล่นกันเต็มไปหมด
คำถามที่ "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" กูรู นักคิด ด้านดิจิทัล อีคอมเมิร์ซคนแรกๆ ของไทย ตั้งไว้ พร้อมขยายความต่อว่า ส่วนตัวเขาใช้เงินต่อเดือนราว 2 พันกว่าบาท หรือปีนึง 2 หมื่นกว่าบาท เพื่อจ่ายเงินให้กับบริการออนไลน์ต่างประเทศเหล่านี้
"นี่แค่ผมคนเดียว และถ้ามีคนไทยอย่างผมประมาณ 10 ล้านคน คนไทยจะจ่ายค่าบริการออนไลน์บริษัทต่างประเทศ ปีนึง 2 แสนกว่าล้านบาทเลยทีเดียว"
ภาวุธ บอกว่า เขาเคยพูดเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2018 หรือราว 4 ปีก่อน ว่าประเทศไทยควรจะดูเรื่องการขาดดุลดิจิทัล และสรรพากร ควรหลักดันเรื่องกฏหมายการเก็บภาษีจากบริการต่างประเทศ
ล่าสุดกรมสรรพากรได้เปิดเผยตัวเลข การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการบริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศ (VAT for Electronic Service : VES) ที่คนไทยจ่ายออกไป ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 – มกราคม 2565 (รวม 5 เดือน)
สรรพากรได้ภาษี VAT 3 พันกว่าล้านจากผู้ให้บริการออนไลน์จากต่างประเทศ (แต่ส่วนใหญ่ภาษีที่จ่ายคือคนไทยจ่ายเพิ่ม เพราะเค้าชาร์จเพิ่มไปจากราคาปกติ)
เขาย้ำว่า นี่เป็นตัวเลขแค่ 5 เดือนเท่านั้น และเพิ่งเป็นการเริ่มต้นเก็บจากผู้ให้บริการต่างประเทศที่มาขึ้นทะเบียนกับกรมสรรพากร 127 รายเท่านั้น (ยังมีอีกบริการออนไลน์อีกมากมาย ที่ยังไม่ได้มาเข้าระบบตรงนี้)
เดิมสรรพากรคาดการณ์ว่าจะเก็บภาษีส่วนนี้ได้สูงถึง 3-5 พันล้านบาท แต่ผ่านไปแค่ 5 เดือน จัดเก็บได้ถึง 3 พันล้านบาท สรรพากรเลยคาดการณ์ตัวเลขใหม่ว่าน่าจะจัดเก็บได้สูงถึง 8 พันล้าน หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว
“ผมคาดการณ์ว่าคนไทยจะจ่ายเงินให้กับผู้ให้บริการออนไลน์ต่างประเทศปีนึงสูงถึง 2 แสนล้านบาท“
ถ้าเป็นไปตามนั้นจริงๆ นั้นหมายถึง “คนไทยจะจ่ายเงินให้บริการออนไลน์ของต่างประเทศปีนึงนับแสนล้านบาทเลยทีเดียว” แต่เดียวก่อน นี้แค่จาก 127 ผู้ให้บริการเท่านั้น ถ้าประเมินตัวเลขจริงๆ เรามีอีกหลายร้อยบริษัทต่างประเทศที่ไม่ได้เข้าระบบ ดังนั้นส่วนตัวผมคิดว่า ปีนึงคนไทยเราน่าจะจ่ายเงินให้ บริการออนไลน์ ต่างประเทศเกิน 2 แสนล้านบาทแน่นอน"
คนไทยขาดดุลดิจิทัลมหาศาล
ภาวุธ บอกว่า ถ้าเทียบดูแล้วปีนึงเราจ่ายเงินให้กับบริษัทบริการออนไลน์ต่างประเทศสูงถึง 2 แสนล้าน นับว่ามากกว่ามูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปปี 64 ที่มีเพียงแค่ 172,750 ล้าน หรือเทียบกับการส่งออกข้าวไทยในปี 2564 มีเพียง 107,758 ล้านบาท (ขายข้าวทั้งปี ยังไม่ได้เท่ากับคนไทยขาดดุลดิจิทัล)
“สรุปง่ายๆ คนไทยต้องส่งออกข้าวเพิ่มเป็น 2 เท่าถึงจะเท่ากับการที่คนไทยเสียเงินให้กับบริการออนไลน์บริษัทต่างประเทศ ผมไปดูตัวเลขการนำเข้าสินค้าของไทยส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้าที่จับต้องได้เป็นหลัก น้ำมัน เหล็ก เครื่องจักร สินค้าเกษตร
แต่ไม่มีตัวเลขสินค้าดิจิทัลเลย ทั้งๆ ที่การขาดดุลสินค้าประเภทนีแทบจะสูงเป็นอันดับต้นๆ ของทุกกลุ่มประเภทสินค้า ดังนั้น รัฐควรเพิ่มการขาดดุลสินค้าดิจิทัล เข้าไปในการคำนวนเชิงเศรษกิจของประเทศ”
ภาวุธ บอกว่า สิ่งที่เขาอยากจะกระตุกให้ทุกคนคิดตาม คือ จริงๆ แล้ว การขาดดุลดิจิทัลของไทย เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน คิดว่าต่อๆ ไปทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นออนไลน์หมด และบริการออนไลน์จริงๆ มีของคนไทยไม่กี่รายเท่านั้น ดังนั้นต่อไปคนไทยจะจ่ายเงินออกไปยังผู้ให้บริการออนไลน์ต่างประเทศเพิ่มขึ้นๆ อีกอย่างแน่นอน ดังนั้นการขาดดุยดิจิทัลจะ เพิ่มขึ้นไปแบบกระฉูดและมหาศาลแน่ๆ ดังนั้น รัฐควรต้องทำอะไรสักอย่าง
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ต้องขอบคุณกรมสรรพกรที่ลุกขึ้นมาจัดเก็บภาษี จากผู้ให้บริการต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ เขาได้มีโอกาสนำเรื่องนี้ไปคุยกับกรมสรรพกร เผยตัวเลขเหล่านี้ให้ทางกรมได้เห็น
และสุดท้ายมันก็ออกมาเป็นกฏหมาย และตัวเลขการจัดเก็บภาษีจากผู้ให้บริการออนไลน์ต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นตัวเลขตั้งต้นให้เห็นถึงการ “ขาดดุลดิจิทัลของไทย” และมันจะนำไปสู่การเปิดตาคนไทย และรัฐไทยให้เห็นว่า
"เรากำลังสูญเสียเงินมหาศาลให้กับผู้ให้บริการออนไลน์ต่างประเทศ และจะเป็นจุดที่ทำให้นักธุรกิจไทยได้คิดว่า ทำไมเราถึงปล่อยให้เงินจำนวนมหาศาลนี้ หลุดออกไปให้ต่างประเทศ ทำไมสามารถสร้างบริการลักษณะเดียวกันได้ไหม หรือเราควรจะทำอย่างไรต่อ ตัวเลขที่กรมสรรพากรนำออกมา คือตัวโดมิโนตัวเล็กๆ ที่กำลังจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับเศรษฐกิจของไทยและธุรกิจดิจิทัลของไทย”
ใครจะเชื่อว่าการจ่ายเงินค่าบริการทางออนไลน์ต่างๆ เดือนละไม่กี่ร้อย กี่พัน จะทำให้ประเทศชาติขาดดุลได้ขนาดนี้!!