กสทช. ยัน ครม.อนุมัติเพิ่ม 7.5% เฉพาะ “ค่าตอบแทนเหมาจ่าย” ไม่มีค่าเสียโอกาส
สำนักงาน กสทช. แจง ครม. อนุมัติค่าตอบแทนเพิ่ม 7.5% เฉพาะค่าตอบแทนเหมาจ่าย กสทช. ยืนยันไม่มีค่าเสียโอกาส และบอร์ดปัจจุบันไม่เกี่ยว
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวว่า สำนักงาน กสทช. ขอขึ้นค่าตอบแทนให้ประธาน กสทช. และกรรมการ โดยรวมค่าเสียโอกาสด้วยนั้น
ในข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ก่อนหน้าที่บอร์ดชุดปัจจุบันจะเข้ามาเริ่มรับตำแหน่ง สำนักงาน กสทช. ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อขอให้เห็นชอบ พ.ร.ฎ.ขึ้นค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนให้กับประธานและกรรมการ เนื่องจากเห็นว่าค่าตอบแทนของประธาน กสทช. และกรรมการ กสทช. เป็นอัตราเดิมที่ไม่เคยมีการปรับปรุงใดๆ นับตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเป็นไปตามข้อสังเกตที่กฎหมายกำหนดตามการแก้ไข พ.ร.บ.กสทช. ปี 2560 ที่ควรมีการพิจารณาทบทวนอัตราค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการ กสทช. สำนักงานฯ จึงได้ทำเรื่องขอปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. วันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว โดยให้ปรับขึ้นเฉพาะค่าตอบแทนรายเดือนเท่านั้น ส่วนการเสนอเพิ่มเกี่ยวกับค่าเสียโอกาสซึ่งเป็นแนวคิดที่เสนอโดยสำนักงาน กสทช.นั้น ครม. ไม่ได้อนุมัติ
ค่าตอบแทนของประธาน กสทช. และกรรมการ กสทช. เป็นค่าตอบแทนแบบเหมาจ่ายรายเดือน ประกอบไปด้วยเงินเดือน ผลประโยชน์อื่น ค่ารักษาพยาบาล และบำเหน็จตอบแทน เดิมประธาน กสทช. ได้รับค่าตอบแทนรายเดือน ในอัตรา 335,850 บาท ส่วนกรรมการ กสทช. ได้รับในอัตรา 269,000 บาท มาตั้งแต่ปี 2556
การปรับขึ้นค่าตอบแทนรายเดือนตามที่ ค.ร.ม. เห็นชอบ ได้ปรับขึ้น 7.5% จากอัตราเดิม ดังนั้นค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนใหม่ ของประธาน กสทช. จะอยู่ที่ 361,167 บาท ส่วนกรรมการ กสทช. อยู่ที่ 289,167 บาท
นอกจากนี้นายไตรรัตน์ ยังย้ำว่า กสทช. ชุดปัจจุบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสนอปรับปรุงค่าตอบแทนที่สำนักงาน กสทช. เสนอต่อ ครม. แต่อย่างใด เพราะบอร์ดชุดปัจจุบันเพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง กสทช. เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 และเข้าปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงาน กสทช. เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 ส่วนเรื่องค่าเสียโอกาสที่เป็นแนวคิดของสำนักงานเองก็ถูกตีตกไปแล้วด้วย