The 1 ผนึก AWS เสริมแกร่งลอยัลตี้แพลตฟอร์ม

The 1 ผนึก AWS เสริมแกร่งลอยัลตี้แพลตฟอร์ม

เดอะ วัน (The 1) เปิดเผยความสำเร็จในการใช้นวัตกรรมประมวลผลคลาวด์ของ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส (AWS) เพื่อเสริมศักยภาพด้านลอยัลตี้แพลตฟอร์มดิจิทัล ตั้งเป้าสู่การเป็น “Center of Life Platform” มองหาพาร์ทเนอร์ 2 พันองค์กรร่วมทุน

เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เพราะข้อมูลมีจำนวนมหาศาล หากใช้แรงงานมนุษย์อาจจะเกิดการผิดพลาดระหว่างการจัดเก็บ การมีนวัตกรรมอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยประมวลผลจะช่วยทำให้การบริหารข้อมูลมีความรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

เดอะ วัน (The 1) ผู้สร้างนวัตกรรม “เดอะ วัน การ์ด (The 1 Card)” คำที่ฟังแล้วคุ้นหู เวลาเข้าไปจับจ่ายซื้อของผ่านห้างสรรพสินค้าภายใต้เครือเซนทรัล เพื่อรับสิทธิพิเศษ ส่วนลด และสะสมแต้ม ทั้งนี้ เดอะ วัน ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์ม (Loyalty Platform) แต่กว่าจะมาเป็นเดอะ วันอย่างที่เห็นในปัจจุบันได้นั้น ทางทีมงานต้องผ่านโจทย์ยาก ๆ ดังข้างต้นมานับไม่ถ้วน 

ซึ่งวันนี้ได้ประกาศความสำเร็จจากใช้ระบบจัดการข้อมูลด้วย AI Machine Learning ผ่านการประมวลผลบนคลาวด์ของ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส (Amazon Web Services หรือ AWS) ไว้ในงานเสวนา หัวข้อ “AWS data analytic” โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็น “Center of Life Platform” และยังมองหาพาร์ทเนอร์เพื่อเข้าร่วมธุรกิจกว่า 2,000 องค์กร 

The 1 ผนึก AWS เสริมแกร่งลอยัลตี้แพลตฟอร์ม

  • นวัตกรรมเอไอจัดเก็บข้อมูล

ธีรพล ไทยหิรัญ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล เดอะ วัน บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า เดอะ วัน เป็นศูนย์กลางลอยัลตี้ให้กับเครือเซ็นทรัลมากกว่า 15 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 19 ล้านราย รวมทั้งพันธมิตรใน Ecosystem กว่า 2,000 แบรนด์ จาก 8 อุตสาหกรรม และมีจุดใช้บริการมากกว่า 32,000 จุด

ปี 2563 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านมาสู่การเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม กล่าวคือ เปลี่ยนจากการใช้การ์ด มาเป็นการใช้แอปพลิเคชันบนมือถือและเว็บไซต์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้งานระบบและเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งทีมงานต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการจัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล ตลอดจนการดูแลระบบ จึงได้มองหาพาร์ทเนอร์อย่าง AWS และถ่ายโอนข้อมูลทั้งหมดมายังระบบคลาวด์ ผ่าน AWS Database Migration Services (AWS DMS) ภายในเวลาเพียง 7 เดือน กับข้อมูลของลูกค้าจำนวน 19 ล้านคน 

จากการใช้ระบบคลาวด์ทำให้ทราบถึงรายละเอียดของลูกค้าแต่ละคนได้ลึกขึ้น เช่น ลูกค้ามาจากที่ไหน ชอบซื้อสินค้าประเภทอะไร มีไลฟ์สไตล์อย่างไร เช่น กลุ่มแม่และเด็ก ตลอดจนมองเห็นปัญหาที่ลูกค้าเจอ ทำให้สามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้า นำไปพัฒนาและแก้ไขได้ตรงจุด รวดเร็ว และแสดงผลแบบเรียลไทม์ 

The 1 ผนึก AWS เสริมแกร่งลอยัลตี้แพลตฟอร์ม

คณินท์ ปิ่นสุวรรณ์ Head of Product and Operations ของ เดอะ วัน อธิบายว่า ทีมดาต้าใช้ Amazon Redshift เป็นคลังข้อมูล ก่อนหน้านี้การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง แต่ตอนนี้ใช้เวลาเพียง 15 นาที นอกจากนี้ ยังได้รับการช่วยเหลือจาก AWS ทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหาขึ้น โดยสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว มีเทคนิคและองค์ความรู้ที่ขับเคลื่อนให้นวัตกรรมของเดอะ วัน เดินหน้าต่อได้ 

แม้ว่าทางบริษัทจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาส่งเสริมลูกค้า แต่ก็ช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐาน ได้ถึง 20% ตลอดจนลดเวลา ทำให้บุคลากรของเดอะ วัน มีเวลาไปพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถด้านอื่น ๆ เพิ่ม เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมาย “Center of Life Platform”

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เราเห็นการเพิ่มของข้อมูลที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เติบโตขึ้นเป็น 1,000 เท่า หรือพูดได้ว่าเติบโตขึ้น 10 เท่าตัว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้นอกจากการเก็บข้อมูลในระยะยาวที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงคนที่สร้างและนำข้อมูลมาใช้ อย่างเช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) วิศวกรข้อมูล (Data Engineer) และธุรกิจต่าง ๆ ที่นำข้อมูลไปใช้อย่างหลากหลายและแบบเรียลไทม์

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Aberdeen ชี้ให้เห็นว่า คนที่นำข้อมูลมาใช้ในการทำธุรกิจจะมีความได้เปรียบ ช่วยให้มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน และส่งผลให้รายได้มีการเติบโตใน 20-30% โดยประมาณ เทียบกับธุรกิจที่ไม่ได้นำข้อมูลมาใช้อย่างจริงจังจะมีค่าเฉลี่ยการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 15% การนำข้อมูลมาใช้และวิเคราะห์ให้ประโยชน์แก่องค์กรใน 3 ด้าน ดังนี้

  1. เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร
  2. การตัดสินใจได้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น
  3. เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับองค์กร ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง 68% เท่านั้น ที่นำข้อมูลไปใช้อย่างประสิทธิภาพ 

 

  • เพิ่มขีดความสามารถผ่านแอปพลิเคชัน

แอปพลิเคชัน เดอะ วัน ที่ร่วมพาร์ทเนอร์กับคลาวด์ ผ่าน Amazon Personalize จะช่วยเพิ่มความสามารถให้องค์กรที่เข้าร่วมสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าทีมดาต้าจะใช้เวลาในการสร้างระบบ 6 เดือน แต่ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องมือ AWS จึงช่วยให้เดอะ วันสามรถเปิดตัวฟีเจอร์นี้ได้ภายในระยะเวลา 2 เดือน เบื้องต้นประกอบไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้

  1. รู้จักและเข้าใจลูกค้าของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าผ่านระบบสมาชิกและการสะสมคะแนน และพัฒนา 1st Party Data ของตัวเองให้มีมิติมากยิ่งขึ้น
  2. กำหนดกลยุทธ์การตลาด พัฒนาสินค้า บริการ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้อย่างรู้ใจและแก้ปัญหาได้ตรงจุด โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์แนวโน้ม เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
  3. รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า และสร้างการซื้อซ้ำ ผ่านโปรแกรมสะสมคะแนน และรูปแบบการสื่อสารการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) เพื่อมอบข้อเสนอที่ตรงใจด้วย MarTech ที่ทันสมัย
  4. เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการสร้าง co-campaign จัดโปรแกรมส่งเสริมการขายผ่านช่องทางของ The 1 และกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ เดอะ วัน ได้เปิดตัว “The 1 for Business” ตัวช่วยธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการตลาดดิจิทัล ภายใต้แนวคิด Customer First, Data First ด้วย 3 โซลูชันสำหรับธุรกิจแบบ Ready-to-Scale พร้อมเปิดรับพาร์ทเนอร์ทุกธุรกิจให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์และการตลาดแบบรู้ใจผู้บริโภคจากทีมงานคนรุ่นใหม่เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจรีเทล, แฟชั่นและความงาม, อาหารและเครื่องดื่ม, ท่องเที่ยว, ขนส่งและยานยนต์, สถาบันทางการเงิน, สื่อและความบันเทิง, อสังหาริมทรัพย์, โรงพยาบาล ตลอดจน สายการบิน ฯลฯ 

นอกจากนี้ เดอะ วัน มุ่งเน้นที่จะย้ายสมาชิกออฟไลน์ที่ยังไม่ได้ใช้ช่องทางดิจิทัลให้มาเป็น Digital User เพื่อเป้าหมายให้ลูกค้าจะได้เข้าถึงสิทธิประโยชน์และบริการได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีฟีเจอร์และประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ติดตามอีกมากมาย รวมถึงในมุมเทคโนโลยีที่กำลังทำ AWS Well-Architected เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้งาน และระบบความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืน