ยอดขาย iPhone ในจีน ยังไม่ฟื้น! ร่วง 24% ใน 6 สัปดาห์แรกปี 67
ร่วงอยู่ ร่วงต่อ! ยอดขาย iPhone ในจีนดิ่งฮวบ 24% ในช่วง 6 สัปดาห์แรกปี 67 ขณะที่ Vivo ผงาดครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในตลาดมือถือขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการแข่งขันสูงมาก
บริษัทวิจัยเคาน์เตอร์พอยต์ รายงานในวันนี้ (5 มี.ค.) ว่า ยอดขาย iPhone ของแอปเปิ้ล (Apple) ในจีนลดลง 24% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วง 6 สัปดาห์แรกของปี 2567 โดยแอปเปิ้ลเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งในจีนอย่างหัวเว่ย (Huawei)
รายงานระบุว่า หัวเว่ย ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของแอปเปิ้ลในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมในจีน มียอดขายเพิ่มขึ้น 64% ในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในจีนของแอปเปิ้ล ลดลงเหลือ 15.7% ทำให้ตกมาอยู่อันดับ 4 จากเดิมครองส่วนแบ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งเคยครองส่วนแบ่งตลาดที่ 19%
รายงานระบุว่า หัวเว่ยไต่ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 โดยส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.5% จากเดิม 9.4% ในปีก่อนหน้า ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมในจีนหดตัวลง 7%
เหมิงเหมิง จาง นักวิเคราะห์อาวุโสของเคาน์เตอร์พอยต์ กล่าวว่า แอปเปิ้ลเผชิญการแข่งขันรุนแรงในตลาดระดับไฮเอนด์ของจีน ทั้งจากหัวเว่ยที่ฟื้นตัว รวมทั้งถูกบีบจากตรงกลางด้วยการตั้งราคาที่ดุเดือดจากออปโป้ (Oppo), วีโว่ (Vivo) และเสียวหมี่ (Xiaomi)
ส่วน ออเนอร์ (HONOR) แบรนด์สมาร์ทโฟนที่แยกตัวออกมาจากหัวเว่ยในปี 2563 เป็นแบรนด์เดียวใน 5 อันดับแรกที่มียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วง 6 สัปดาห์แรกของปี โดยเพิ่มขึ้น 2% ส่วนแบรนด์จีนอย่างวีโว่, เสียวหมี่ และออปโป้ ลดลง 15%, 7% และ 29% ตามลำดับ
ทั้งนี้ แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในจีน 5 อันดับแรก ได้แก่ วีโว่, หัวเว่ย, ออเนอร์, แอปเปิ้ล และเสียวหมี่ ตามลำดับ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอปเปิ้ลเริ่มให้เงินอุดหนุน iPhone บางรุ่นสูงถึง 1,300 หยวน (ราว 6,594 บาท) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผ่านร้านค้าชั้นนำบนทีมอลล์ (Tmall) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มตลาดหลักของอาลีบาบา โดยก่อนหน้านี้ แอปเปิ้ลก็เคยเสนอส่วนลด iPhone สูงสุดถึง 500 หยวน (ประมาณ 2,536 บาท) บนเว็บไซต์ของบริษัทอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้ว
ด้านหัวเว่ยเริ่มมีการฟื้นตัวของยอดขายสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม นับตั้งแต่เปิดตัวซีรีส์ Mate 60 ในเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่ประสบปัญหามาหลายปีกับรัฐบาลสหรัฐที่ตั้งข้อจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญไปยังหัวเว่ย
อ้างอิง: Reuters