ร้องกสทช.ปกป้องลิขสิทธิ์คอนเทนต์ หวั่น 'โอทีที' ละเมิดประโยชน์ทีวีดิจิตอล

ร้องกสทช.ปกป้องลิขสิทธิ์คอนเทนต์ หวั่น 'โอทีที' ละเมิดประโยชน์ทีวีดิจิตอล

รายงานวิจัยชี้ ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เห็นว่ากสทช. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล ควรเข้ามาช่วยปกป้องคุ้มครองสถานีทีวีดิจิตอลที่รายงานถูกนำเสนอผ่านแพลตฟอร์ม โอทีที หวั่นถูกนำไปหาประโยชน์โดยไม่เป็นธรรม

พิบูลย์ วิฑูรย์ปัญญากุล อาจารย์ประจำสาขาวิชานิติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และ คณะผู้จัดทำวิจัย ได้เผยแพร่บทความวิจัยในวารสารนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปีที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2567 ในหัวข้อ “ปัญหาด้านกฎหมายของทีวีดิจิตอลกับการบริการเนื้อหาวิดีโอโดยการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ โอทีที”

โดยได้สัมภาษณ์ผู้ประกอบการและผู้ผลิตรายการของสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิจอล โดยส่วนใหญ่มีข้อกังวลเกี่ยวกับกรณี คือ เรื่องลิขสิทธิ์ เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับดูแล โอทีที ซึ่งยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการรักษาผลประโยชน์ของทีวีดิจิตอลที่ถูกละเมิด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กสทช.เข้ามากำกับดูแลอย่างจริงจัง 

ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ให้ความเห็นว่า การที่ผู้ให้บริการ โอทีที มาขออนุญาตในการนำเสนอ หากไม่มีผลกระทบหรือเป็นช่องทางที่จะส่งเสริมให้ทีวีดิจิตอลได้รับความสนใจนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะถือเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในการเสพสื่อได้หลายช่องทางมากขึ้น แต่ที่สำคัญ ต้องมีการตกลงหรือการจัดสรรผลประโยชน์ที่ลงตัวทุกฝ่าย ทั้งทีวีดิจิตอลและ โอทีที แต่ในทุกวันนี้ยังคงมีการนำคอนเทนต์ไปใช้เผยแพร่โดยไม่เป็นธรรมกับเจ้าของคอนเทนต์ 

โอทีทีนำคอนเทนต์ไปเผยแพร่หารายได้โดยไม่ได้รับอนุญาต

สรุปโดยย่อถึงปัญหาด้านกฎหมายของทีวีดิจิตอลกับการบริการเนื้อหาวีดีโอโดยการสตริมผ่านอินเทอร์เน็ต ใน 4 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นที่ 1 หากโอทีที นำรายการของสถานีไปตัดต่อและนำเสนอ โดยไม่ได้ขออนุญาต ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ทางปัญญาหรือลิขสิทธ์ เบื้องต้นจะมีการทำหนังสือตักเตือนโดยฝ่ายกฎหมายของทางทีวีดิจิตอล เพื่อให้ทราบว่ามีนำรายการที่นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หากยังฝ่าฝืนอยู่คงต้องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตามกฎหมายต่อไป ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 4 ลิขสิทธิ์

ประเด็นที่ 2 เมื่อผู้ให้บริการโอทีที มีการหารายได้หรือโฆษณาบนคอนเทนต์ที่เอาไปจากทีวีดิจิตอล ถือว่าเป็นการทำละเมิดงานอันมีลิขสิทธิ์ จะต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายฟ้องร้องดำเนินคดี และเรียกค่าเสียหายจากการกระทำที่เกิดขึ้นนั้นต่อไป  

ประเด็นที่ 3 เมื่อผู้ให้บริการ โอทีทีไม่แบ่งรายได้จากโฆษณาดังกล่าวให้กับทีวีดิจิตอล ทางทีวีดิจิตอลต้องดำเนินการตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ตามกฎหมายและเรียกค่าเสียหายจากการกระทำที่เกิดขึ้น

ประเด็นที่ 4 ควรมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาปกป้องคุ้มครองสถานีในการถูกนำเนื้อหาไปเสนอผ่าน โอทีที มีความเห็นว่า กสทช ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรง ต้องเข้ามาช่วยในการปกป้องคุ้มครองของสถานีทีวีดิจิตอล รวมถึงผู้บริโภคด้วย

วอน กสทช.ปกป้องคุ้มครองทีวีดิจิตอล 

ผู้ประกอบทีวีดิจิตอล มองว่า อยากให้ กสทช. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรง เข้ามาช่วยในการปกป้องคุ้มครองของสถานีทีวีดิจิตอลที่รายการถูกนำเสนอผ่าน โอทีที เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้มีการดูแลคุ้มครองทีวีดิจิตอลในด้านของเนื้อหาที่ถูกนำไปเผยแพร่บนโอทีที อย่างชัดเจนแต่อย่างใด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พบว่า มีการนำเนื้อหาของทีวีดิจิตอลไปเผยแพร่บนบริการเนื้อหาวิดีโอโดยการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับดูแลโอทีทีจึงยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการรักษาผลประโยชน์อันพึงอันของทีวีดิจิตอลที่ถูกละเมิด

อย่างไรก็ตาม คาดว่าทาง กสทช. มิได้เพิกเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีผู้บริโภคร้องเรียนมาอยู่เนืองๆ กสทช. จึงอยู่ในระหว่างการวางแผนนโยบาย กำกับดูแล OTT เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล และไม่เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค

นักวิชาการแนะ หาแนวทางกำกับ ให้ทันเทคโนโลยี 

นายพิบูลย์ ให้ความเห็นว่า จากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ยังคงมีหลายประเด็นที่จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือภาครัฐ ควรจะศึกษาต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากที่สุด โดยเฉพาะการออกมาตรการ แนวทางการกำกับดูแลทีวีดิจิทัลและการบริการเนื้อหาวิดีโอโดยการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ต ให้เกิดความเป็นธรรมอย่างเหมาะสม

พร้อมทั้งทบทวนกฎหมายลิขสิทธิ์ ให้สามารถกำกับดูแลทันต่อรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของการบริการเนื้อหาวิดีโอโดยการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ต ตลอดจนการกลั่นกรองและการจัดเรตติ้งของเนื้อหา บนบริการเนื้อหาวิดีโอโดยการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ตให้เหมาะสม และศึกษาปัญหา ผลกระทบ ที่เกิดขึ้น ระหว่างกฎหมายลิขสิทธิ์ กับ กฎ Must have, Must carry