'กสทช.' เร่งถกรมว.ดีอี หาทางออก USO NET รพ.สต. กว่า 4,000 ล้าน

'กสทช.' เร่งถกรมว.ดีอี หาทางออก USO NET รพ.สต. กว่า 4,000 ล้าน

ประธานกสทช.ประสานขอถก 'ดีอี' หาเจ้าภาพทำยูโซ่เน็ต รพ.สต. กว่า 4,000 ล้านบาท ระบุแม้ที่มติบอร์ดอนุมัติในหลักการแต่เสียงอีกฝ่ายโวยราคาแพงเกินจริง ควรส่งให้ดีอีทำแทน คาด 14 ส.ค. นี้เห็นความชัดเจน

นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า บอร์ดกสทช.จะมีการเร่งหารือกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในโครงการจัดให้มีการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม หรือ USO NET ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 1 กลยุทธ์ที่ 1 ระบบโทรคมนาคมเพื่อสาธารณสุข ที่มุ่งเน้นให้โรงพยาบาลสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สามารถเข้าบริการโทรคมนาคมได้เป็นหลัก 

หลังจากที่บอร์ด กสทช. มีมติเห็นชอบในหลักการไปแล้วด้วยงบกรอบงบประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่ที่ประชุมบอร์ด กสทช.ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า ทาง สำนักงาน กสทช. จัดทำโครงการ และจัดซื้อจัดจ้างเอง หรือจะมอบให้ทาง กระทรวงดีอีเป็นผู้ดำเนินการแทนทั้งหมด กสทช.เพียงสนับสนุนงบประมาณให้ โดยคาดว่าในการประชุมบอร์ด กสทช. ครั้งต่อไปในวันที่ 14 ส.ค.นี้น่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจน

 

 

"โครงการนี้บอร์ด กสทช.เห็นชอบในหลักการแล้วควรจะสนับสนุนกับ รพ.สต. แต่ บอร์ด กสทช.ส่วนหนึ่งยังมีความเห็นต่างอยู่จึงยังต้องหารือเรื่องวิธีการว่าจะดำเนินการอย่างไร ว่าจะเห็นชอบให้ สำนักงาน กสทช. ควรทำเอง หรือ ยกให้ ดีอีทำแทน"

ซึ่งตาม กฎหมายของ กสทช. สามารถมอบโครงการให้ดีอีทำแทนได้ และโอนงบประมาณให้ตามมาตรากฎหมายที่กำหนด เพื่อให้ ดีอี สามารถใช้งบประมาณได้ และที่ผ่านมา ดีอี ก็ทำโครงการสนับสนุนอินเทอร์เน็ตให้กับผู้ด้อยโอกาส และหน่วยงานในพื้นที่ห่างไกล และขาดแคลนอยู่แล้ว รวมถึงที่ผ่านมา ดีอี ก็มีการขอรับงบสนับสนุนโครงการจากกองทุนยูโซ่อยู่แล้ว แต่หากดีอีไม่สนใจรับมอบโครงการนี้ไป ทาง สำนักงานกสทช.ก็ต้องทำเอง ซึ่งที่ผ่านมา กสทช. มีการหารือกับทางดีอีตลอดอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการยูโซ่เน็ต เพื่อสนับสนุนอินเทอร์เน็ตให้กับทาง รพ.สต.นั้น ยืดเยื้อมานาน มีการนำเข้าที่ประชุมบอร์ดถึง 14 ครั้งแล้ว แต่ ก็ยังไม่สามารถมีมติสรุบจบได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร

เนื่องจากมีบอร์ด กสทช.บางส่วน เห็น แย้งเรื่องพื้นที่ และจำนวน รพ.สต. ที่จะสนับสนุน จึงให้ทำหนังสือถึง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อสอบถามจำนวน รพ.สต. ที่ขาดแคลนและต้องการรับการสนับสนุน เมื่อได้รับข้อมูลกลับมาแล้วจึงนำเสนอที่ประชุมบอร์ดอีกครั้ง แต่ บอร์ด กสทช.ยังมีการตั้งข้อสังเกตุว่า ค่าเช่าและค่าอุปกรณ์ที่สำนักงาน กสทช. เสนอมา แพงว่าโครงการที่ สธ.เคยทำกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ เอ็นที ในปีงบประมาณ 2567 จำนวน 5,246 แห่ง และได้ยกเลิกการเช่าใช้บริการจาก เอ็นที ทั้งหมดหลังสิ้น สุดสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 โดยมีเหตุผลเนื่องจากมีนโยบายให้หน่วยงานส่วนภูมิภาค ดำเนินการเช่าอินเทอร์เน็ตเอง โดย รพ.สต. ดังกล่าวจะต้องถูกโอนย้ายไปสู่องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) 

ขณะเดียวกันสปีดความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เสนอมามากลับลดลงจากเดิมที่ รพ.สต.เคยได้จากโครงการเดิม ทำให้มีการเสนอทางออกยกโครงการให้ทางดีอีดำเนินการแทน แต่บอร์ดบางคนเห็นว่า สำนักงาน กสทช.มีศักยภาพที่ทำเองได้ และการจัดซื้อจัดจ้างก็มีความโปร่งใส ได้รับรางวัลจากหน่วยงานรัฐที่ตรวจสอบ แต่สุดท้ายบอร์ดก็สรุปให้ให้นำไปหารือกับทางดีอีก่อน