กูเกิลร่วมพันธมิตรหนุนเอสเอ็มอีผงาดออนไลน์
“กูเกิล” ผนึก “เทพช็อป” พร้อมด้วย “เรดดี้ แพลนเน็ต” เสริมแกร่งโซลูชั่นโฆษณาสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี รับมืออีคอมเมิร์ซยังแข่งดุ จำเป็นต้องสร้างตัวตน
นางศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย หัวหน้าฝ่ายการตลาด ธุรกิจเอสเอ็มอี กูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า ร่วมมือกับ เทพช็อป และ เรดดี้ แพลนเน็ต นำเสนอโซลูชั่น “กูเกิล ชอปปิง แอด(Google Shopping Ads)” ที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจรวมถึงเอสเอ็มอีสามารถลงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้อ้างอิงจากข้อมูลของสพธอ. เอสเอ็มอีไทยที่ขายของออนไลน์มีอยู่ประมาณ 6 แสนรายจากจำนวนดังกล่าวมีอยู่เกือบ 4 แสนรายที่มีเว็บไซต์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีทว่ามีความจำเป็นที่ต้องสร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาวด้วยเครื่องมือนี้เอสเอ็มอีจะสามารถพัฒนาคุณภาพประสบการณ์ออนไลน์ทำให้ลูกค้าค้นพบสินค้าได้ง่ายขึ้นรวมถึงปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัจจุบัน 99.7% ของธุรกิจไทยเป็นเอสเอ็มอีคิดเป็น 42% ของจีดีพีประเทศซึ่งถือเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยธุรกิจเหล่านี้ต้องการเชื่อมต่อกับลูกค้าที่ในปัจจุบันหันมาซื้อสินค้าผ่านทางโลกออนไลน์มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางโทรศัพท์มือถือ
“การถูกพบเห็นบนกูเกิลเสิร์ชและกูเกิลแผนที่นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแต่อย่างไรก็ตามการทำเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันช่วยสร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาวเมื่อเอสเอ็มอีมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้วการลงโฆษณาสามารถช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการเพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้นนอกจากนี้การวิเคราะห์ข้อมูลที่โปร่งใสและสามารถวัดผลได้จะช่วยให้เอสเอ็มอีมีความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้การใช้งบการตลาดเกิดประโยชน์สูงสุด”
นายณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยู ผู้ให้บริการอี-มาร์เก็ตเพลสสัญชาติไทยเว็บไซต์เทพช็อป (LnwShop.com) และเทพมอลล์ กล่าวว่า ช่องทางที่ลูกค้าคลิกเข้ามามาจากกูเกิลถึง 50% โฆษณา 19% เข้าชมโดยตรง 17% เฟซบุ๊ค 12%
สำหรับบทบาทของเทพช็อปร่วมกันช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ที่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีนำเสนอและจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์โดยใช้กูเกิลชอปปิงแอดซึ่งจะแสดงรูปภาพสินค้าและข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องเช่นราคาชื่อร้านค้า
“ความร่วมมือครั้งนี้จะยิ่งทำให้ผู้ค้าสามารถลงโฆษณาได้ง่ายขึ้นโดยสามารถทำผ่านแพลตฟอร์มของเทพช็อปได้โดยตรงจากที่เริ่มให้บริการอย่างไม่เป็นทางการไปราว 15 วันมีเอสเอ็มอีสนใจกว่า 400 ราย 50 ร้านแรกที่เริ่มใช้มียอดการสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บเข้ามามากขึ้นกว่า 12 เท่า”
อย่างไรก็ดี ปีนี้คาดว่าการแข่งขันของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซประเทศไทยยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องผู้ค้าต้องเผชิญความท้าทายจากสินค้าต่างประเทศโดยเฉพาะจีนจำต้องสร้างจุดต่างหาเอกลักษณ์ของตนให้พบตามความถนัดเพื่อเพิ่มโอกาสอยู่รอด
ส่วนความร่วมมือกับเรดดี้แพลนเน็ตนำเสนอระบบวัดผลโฆษณาดิจิทัล “Sales Desk Widget” โซลูชั่นที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีที่มีเว็บไซต์อยู่แล้วสามารถสื่อสารกับลูกค้าค้าได้ง่ายขึ้นมีความสามารถในการรวบรวมช่องทางการสื่อสารทั้งหมดไว้ในที่เดียวพร้อมๆไปกับการวัดผลและเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาขณะนี้มีธุรกิจสนใจใช้งานกว่า 2 พันราย