‘ยูไอเอช’สยายปีกธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์
เปิดตัวศูนย์ใหม่ ชูจุดเด่นตั้งอยู่บนทำเลทอง ได้มาตรฐานระดับโลก วางจิ๊กซอว์สำคัญหนุนเติบโตระยะยาว ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำด้านดิจิทัลอินฟราสตรักเจอร์-ไอทีโซลูชั่น
นายสันติ เมธาวิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (ยูไอเอช) ในกลุ่มบริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง กล่าวว่า ภาพรวมตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 15% ต่อปี จากปี 2563 ที่มีมูลค่า 459 ล้านดอลลาร์ คาดว่าเมื่อถึงปี 2568 จะเพิ่มไปถึง 925 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ รับอานิสงส์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยบริษัทที่ปรึกษาเบนแอนด์โคคาดการณ์ไว้ว่า เมื่อถึงปี 2568 เศรษฐกิจดิจิทัลภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีมูลค่าสูงถึง 1.13 ล้านล้านดอลาร์ ส่วนสถานะประเทศไทยฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวนและดีป้าเผยว่า ขณะนี้องค์กรธุรกิจ 53% อยู่ระหว่างการทรานส์ฟอร์มตนเอง 31% กำลังศึกษา และมี 9% ที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัล
ดีป้าระบุด้วยว่า ภายใน 15 ปีจากนี้ 3 เทคโนโลยีหลักที่องค์กรธุรกิจไทยให้ความสำคัญลงทุนคือ ซิเคียวริตี้ คลาวด์ และระบบเน็ตเวิร์ค ขณะที่เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่จะมีอิทธิพลประกอบด้วย ดาต้าอนาไลติกส์, ออโตเมชั่น, อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์(ไอโอที), ปัญญาประดิษฐ์(เอไอ), บล็อกเชน, เน็กซ์เจนเทเลคอมมูนิเคชั่น, เสมือนจริง, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, นาโนเทคโนโลยี, และพิมพ์ 3 มิติ
สำหรับยูไอเอช แนวทางการทำตลาดวางตำแหน่งเป็น “ดาต้าเซ็นเตอร์แอสอะเซอร์วิส” ล่าสุดเปิดตัว ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “ UIH BCH4” มาตรฐาน Uptime Tier III พื้นที่ใช้งานรองรับตู้เซิร์ฟเวอร์จำนวน 300 แร็ค ตั้งอยู่ที่อาคารเบญจจินดา เขตจตุจักร ใช้งบประมาณการลงทุนราว 300 ล้านบาท ศูนย์นี้มีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ ตอนเหนือของกรุงเทพฯ ชั้นใน ติดรถไฟฟ้า การออกแบบและก่อสร้างผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก
บีซีเอช4 จะมีส่วนสำคัญช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับความต้องการใช้เทคโนโลยีในอนาคตของลูกค้า ทั้งบริษัทจะสามารถให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งศูนย์ข้อมูลหลัก (Data Center site) ศูนย์ข้อมูลสำรอง (Disaster Recovery sit) โดยลูกค้าสามารถเลือกดาต้าเซ็นเตอร์ลักษณะมัลติโลเคชั่นได้
เขากล่าวว่า การสร้างจุดต่างธุรกิจไม่เน้นแข่งขันด้านราคาและจะเห็นได้ว่าผู้ให้บริการแต่ละรายทำราคาใกล้เคียงกัน ที่บริษัทให้ความสำคัญคือมาตรฐานและโลเคชั่น ซึ่งต้องครอบคลุมทั้งในเมือง นอกเมือง และต่างจังหวัด ด้านกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มุ่งโฟกัสบริษัทไอทีสัญชาติจีน ธุรกิจการเงินการธนาคาร ผู้ติดตั้งระบบ(เอสไอ) และธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์
อย่างไรก็ดี การลงทุนขยายธุรกิจจะพิจารณาตามการขยายตัวและที่ตั้งธุรกิจของลูกค้า ไม่เน้นสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ พื้นที่ใช้งาน 200-300 แร็ค เชื่อว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตสูง รับการเพิ่มขึ้นของข้อมูล รวมถึงการมาของ 5จี ที่ต้องการการประมวลผลเรียลไทม์ ด้านเทรนด์การใช้งานจะอยู่ในรูปแบบมัลติโลเคชั่นมากขึ้น
ธุรกิจของยูไอเอชมี 5 กลุ่มหลักคือ ระบบเครือข่าย, ไอทีโซลูชั่น, ดาต้าเซ็นเตอร์, คลาวด์, และซิเคียวริตี้ ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้า 2-3 พันราย สัดส่วนรายได้ หลักๆ ยังคงเป็นระบบเครือข่าย 80% กลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างมากคือคลาวด์ปีละกว่า 100% ที่กำลังมาแรงคือซิเคียวริตี้และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตมากขึ้นเมื่อมีการบังคับใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
ส่วนดาต้าเซ็นเตอร์เป็นธุรกิจที่กำไรไม่มาก ใช้งบประมาณการลงทุนสูง ทว่าเป็นบริการพื้นฐานที่ต้องมี และหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่สำคัญที่จะผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตได้ในระยะยาว บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะขึ้นไปเป็นผู้นำด้านดิจิทัลอินฟราสรักเจอร์และไอทีโซลูชั่น
นายสันติ ฝากถึงนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) คนใหม่ว่า ภาคเอกชนหวังให้มีการขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเติบโตได้ทันยุคดิจิทัล ขณะเดียวกันสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้